จับแล้ว! โจรแต่งไรเดอร์ ยิงเจ้าของร้าน ชิงทองบิ๊กซีปากช่อง ที่แท้ ส.ต.ท.ตำรวจท้องที่
ราชทัณฑ์ รับตัว "ผู้กับกับโจ้" เข้าเรือนจำคลองเปรม นำตัวตรวจคัดกรอง-กักโรค 21 วัน
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ นำอดีตผู้ต้องขัง 3 คน ไลฟ์สดแฉเปิดโปงขบวนการรีดไถเงินจ่ายส่วยเรือนจำ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ถูกคุมขังในเรือนจำแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำถูกเรียกรับเงินเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย
หนึ่งในอดีตผู้ต้องขัง เปิดเผยว่า ถูกจับข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ทันทีที่เข้าไปในเรือนจำก็จะรับการติดต่อเสนอให้จ่ายเงินประมาณ 15,000 – 20,000 บาท
เพื่อแลกกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอยู่ข้างใน ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย อย่าง การซื้อล็อกเกอร์เก็บของ เรื่องอาหารการกิน ที่นอน ไปจนถึงเรื่องการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ เวลาที่นักโทษอยู่ในเรือนจำ จะต้องเข้าไปทำงานในกองงานต่าง ๆ แต่ถ้าใครไม่อยากไปทำงาน หรือทำงานไม่ไหว ก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับไม่ต้องทำงาน
“ถ้าปรับแดนกองงานธรรมดาก็ 15,000 บาท ตอนที่ผมอยู่นะ แต่ถ้าขึ้นระดับการศึกษา หรือ แกลลอลี่ ซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของเรือนจำ อันนั้น 2-3 หมื่น แล้วได้ย้ายจริง ๆ ไหม ก็อยู่ตรงนั้นล่ะครับ อยู่ที่เดิม แต่เงิน 15,000 ที่คุณปรับแดนอยู่แดนแรกรับแล้ว คุณก็ต้องไปเสียเพิ่มอีกนะครับในกองงาน ถ้าคุณไม่อยากทำงาน ทำงานไม่ไหว คุณก็ต้องเสียเงินเพิ่ม เพราะว่ามันทำเยอะ ทำหนักมาก ทำอย่างกับทาส แต่ค่าตอบแทนเดือนหนึ่ง 36 บาท” หนึ่งในอดีตผู้ต้องขัง กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ต้องขังบางคนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ต้องใส่กำไล EM ข้อเท้า ก็จะมีกลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ ยื่นข้อเสนอถอดกำไล EM โดยให้จ่ายเงิน 20,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถอด แต่ไปได้ถอดเมื่อครบตามเกณฑ์ พอติดต่อขอเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง
ด้าน นายอัจฉริยะ ระบุว่า สาเหตุที่พาอดีตผู้ต้องขังมาเปิดโปงขบวนการส่วยเรือนจำ เพื่อต้องการตีแผ่และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงมาดูข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาเรื่องนี้
“ผมมองว่าเรื่องนี้มันต้องทำให้ทุกเรือนจำ ต้องไม่ใช่เรือนจำนรกของนักโทษ แล้วก็ทำให้เกิดช่องว่างในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นในกระทรวงยุติธรรมในเรื่องของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องจ่ายเงินอะไรอย่างนี้ เขาต้องติดคุกเขาก็ถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาลอยู่แล้ว ยังต้องมาหาเงินมาจ่ายในเรือนจำอีก เรียกว่าซื้อความสบาย แต่ว่าจริงๆคือ ถ้าคนอื่นที่ไม่มีเงินจะต้องทำยังไง” นายอัจฉริยะ กล่าว
หลังจากนี้ นายอัจฉริยะ จะพาอดีตผู้ต้องขังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้คุมและผู้บัญชาการเรือนจำดังกล่าวด้วย โดยให้ ทนายเดชา เป็นทนายความและดูแลดรื่องข้อกฎหมายให้