ชาวบุรีรัมย์ แจ้งจับข้าราชการอบต. หลอกยืมเงินคนชรา สูญ 20 ล้านบาท

โดย PPTV Online

เผยแพร่

คนชราใน จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความจับข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ออกอุบายหลอกยืมเงิน แถมยังเอาโฉนดปลอมมาค้ำประกัน มีผู้เสียหายกว่า 10 คน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

จตช.สั่ง ภ.จว.ชุมพร ให้ออก "จ่าเชิด" หึงโหด รองผบ.ตร.สั่งสอบอีก ด.ต.อ้างชุด ศปทส.รีดเงินแสน

เตรียมหลักล้านยื่นประกัน "อดีตผู้กำกับโจ้" ตร.อายัดบ้าน คอนโด รถ 131 ล้าน สั่งฟ้องยกแก๊งคลุมถุงดำ 4...

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านกระสัง ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ กว่า 10 คน  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชรา เข้าแจ้งความตำรวจ เอาผิด นางต่าย อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการระดับปฏิบัติการ ในองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ซึ่งหลอกลวงขอยืมเงินชาวบ้าน คนละ 100,000 บาท ถึง 3 ล้านบาท รวมกว่า 20 ล้านบาท

นางปุ่น สาโรจน์ หนึ่งในผู้เสียหาย ร่ำไห้เล่าว่า รู้นจักกับ นางต่าย เพราะเป็นหลานสะใภ้ เข้ามาขอให้ นางปุ่น กู้เงินให้โดยครั้งแรกกู้ให้ไป 1 ล้านบาท

จากนั้น นางต่ายก็มาบอกว่าอยากให้กู้เพิ่ม เพราะจะเอาไปปิดบัญชีสหกรณ์  จึงกู้เงินมาให้อีก 1 ล้านบาท  ไม่นาน นางต่าย ก็มาบอกว่าอยากได้เงินไปลงทุน ให้กู้เพิ่มอีก 1 ล้านบาท รวมแล้วกู้เงินให้ นางต่าย ไปทั้งหมด 3 ล้านบาท

โดย นางปุ่น นำเอาทรัพย์สินที่ดินทำเลดีพื้นที่ 5 ไร่ กับ ที่ดินปลูกบ้านอีก 2 งาน ไปค้ำประกันเอาไว้ เพื่อเอาเงินมาให้กับหลานสะใภ้ หลังจากนั้น นางต่าย ก็หายตัวไป 

จากการตรวจสอบทราบว่า นางต่าย ใช้อุบายหลอกผู้สูงอายุในหมู่บ้าน รวมถึงเพื่อนร่วมงานใน อบต.หลายคน  สาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ เพราะเห็นว่า นางต่าย เป็นข้าราชการ ดูน่าเชื่อถือ และมีสามีเป็นถึงรองนายก อบต. ที่สำคัญระหว่างที่มายืมเงิน ทางนางต่าย ก็จะนำโฉนดที่ดินที่มีชื่อตัวเองเป็นเจ้าของ มาค้ำประกันไว้กับเจ้าของเงินด้วย แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นโฉนดที่ดินปลอม เพราะพอนำไปตรวจสอบกับที่สำนักงานที่ดินพบว่า ไม่มีที่ดินแปลงนั้นอยู่จริง และเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา นางต่าย ก็ได้ลาออกจากงานแล้วหายตัวไปเลย ทำให้ชาวบ้านต่างก็หวาดกลัวว่าจะเดือดร้อน จึงอยากให้ตำรวจติดตามตัวมาใช้หนี้สินทั้งหมดด้วย

ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บ้านสามีของ นางต่าย  พบหน้าบ้านติดป้ายห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต สอบถามทราบว่าเพราะมีเจ้าหนี้รายวัน เข้ามาตามหาเป็นประจำ  อดีตสามี นางต่าย ให้ข้อมูลว่าหย่าร้างกันไปแล้ว เพราะทนไม่ไหวที่มีชาวบ้านและเจ้าหนี้มาทวงเงินจำนวนมาก จึงแยกทางกัน เพราะไม่อยากเดือดร้อนไปด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่าตัวเขาไม่รู้ว่าอดีตภรรยา เอาเงินไปใช้อะไร

เช่นเดียวกับแม่ของ นางต่าย ก็ปฏิเสธว่าตั้งแต่ลูกสาวแต่งงานไปประมาณ 20 ปี ก็ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับลูกสาว  โดยเฉพาะพฤติกรรมการยืมเงินคนอื่น  ที่ผ่านมารู้เพียงว่าลูกสาวทำงานที่ อบต. จนกระทั่งมีคนมาตามหาก็เริ่มรู้เรื่อง แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้แล้ว

เบื้องต้นตำรวจนำโฉนดที่ดิน ที่นางต่าย นำมาค้ำประกันไว้กับชาวบ้าน เพื่อไปตรวจสอบว่าเป็นโฉนดปลอมจริงหรือไม่  และคาดว่าน่าจะยังมีผู้เสียหายอีกหลายคน ซึ่งตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะดำเนินคดีต่อไป.

 

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ