ผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่งนำมาโพสต์เตือนภัย เล่าเหตุการณ์น.ส.ชญาณ์นันท์ เครือจันทร์ พี่สาวที่เป็นเจ้าของร้านชำที่ย่านเคหะรามคำแหง กรุงเทพฯ กำลังไล่ชาย 2 คนออกจากร้าน เพราะเชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพ เนื่องจากชายทั้งสองคนมีพฤติกรรมเข้ามาชี้ตัว น.ส.ชญาณ์นันท์ บอกว่าเป็นบุคคลชื่อ สุภาพร ซึ่งมีหมายจับอยู่ แต่เมื่อบอกว่าไม่ใช่ ก็ชี้ไปที่น้องสาวของน.ส.ชญาณ์นันท์ และบอกว่า เป็นสุภาพร ทำให้ น.ส.ชญาณ์นันท์ ยิ่งไม่พอใจ
ข้อมูล “ธนาคารเครดิตสวิส” รั่วไหล บัญชีอาชญากร-นักการเมืองทุจริตเพียบ!
แกะแหล่งรายได้ ยูทูบเบอร์ รับแบบไหนต้องเสียภาษีอย่างไร
ประกอบกับทั้งสองไม่ยอมให้ดูหมายศาล และบัตรข้าราชการ รวมถึงก่อนหน้านี้ยังเห็นว่าให้ผู้หญิงมาซื้อของที่ร้านคล้ายล่อซื้อ และการแต่งกายที่ไม่ได้ใส่ชุดตำรวจสวมรองเท้าแตะ ทำให้น.ส.ชญาณ์นันท์ ยิ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพ ภายหลังจึงไปแจ้งความ ที่สน.มีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ยังพบว่าเป็นรถสวมทะเบียน
แต่ล่าสุดช่วงค่ำเมื่อวาน ทาง สน.มีนบุรี ได้แจ้งไปยังน.ส.ชญาณ์นันท์ว่า การตรวจสอบพบว่า ชายในคลิปเป็นตำรวจจริงสังกัด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งไปตามจับผู้ต้องหาคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทีมข่าวสอบถามน.ส.ชญาณ์นันท์ เล่าว่า ได้พูดคุยกับตำรวจทั้งสองนายแล้ว โดยทั้งสองได้ชี้แจงเรื่องรถสวมทะเบียน นั้น ว่าเป็นรถใช้ในราชการ
ส่วนเรื่องการแต่งตัวไม่เหมือนตำรวจสวมรองเท้าแตะ ชี้แจงว่าเป็นชุดสืบราชการ เรื่องไม่ยอมให้ดูเอกสารหมายจับ ก็ชี้แจงว่าเพราะไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ ส่วนเรื่องที่ไม่ยอมให้ดูบัตรข้าราชการแบบชัดเจน ชี้แจงว่าเพราะเป็นบัตรราชการข้อมูลเป็นความลับ แต่เรื่องผู้หญิงทำทีมาซื้อของคล้ายล่อซื้อ เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าไม่ได้มาด้วยกัน
น.ส.ชญาณ์นันท์ บอกว่า แม้จะยังข้องใจในบางประเด็น แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่อยากฝากถึงตำรวจว่า หากจะปฏิบัติหน้าที่ก็ขอให้แสดงตัวให้ชัดเจน เพราะหากทำเช่นนี้ก็อาจทำให้สุ่มเสี่ยงเข้าใจผิดได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ แต่เธอก็ขอโทษตำรวจทั้งสองนายด้วยเช่นกันที่ด่าทอรุนแรงไป แต่ยืนยันว่าเป็นการทำไปเพื่อป้องกันตัวเองเช่นกัน