เผย รีสอร์ตหรูไฟไหม้ อยู่ในช่วงเทคโอเวอร์
โรงแรมหรูยันมีระบบป้องกันไฟไหม้ทุกห้อง เร่งตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้
อุปกรณ์ดักควันแบบพกพา หรือ ไร้สาย ไม่ต้องเดินระบบให้ยุ่งยาก แถมยังราคาถูก และหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าออนไลน์ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ ที่รองศาสตราจารย์เอนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แนะนำว่าควรติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้ ไว้ในบ้านพักอาศัย เพื่อเตือนภัยในยามฉุกเฉิน
ทั้งนี้แต่ในกรณีอาคารขนาดใหญ่ “อาจารย์เอนก” กล่าวว่า ตามกฎหมายควบคุมอาคาร
จะต้องติดตั้ง ทั้งเครื่องจับควัน สปริงเกอร์ และระบบแจ้งเตือน ที่เมื่อเกิดเหตุจะแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุม และแจ้งเตือนแบบส่งเสียงดังทั้งอาคาร
สำหรับสปริงเกอร์ที่ติดตั้งในอาคารมีหลายชนิด และใช้งานต่างกัน แต่ละสีจะบอกถึงอุณหภูมิทำงาน หรืออุณหภูมิที่หัวสปริงเกอร์จะแตกเมื่อเจอความร้อน ซึ่งหัวสปริงเกอร์ ชนิดที่มีกระเปาะแก้ว จะมีอยู่ 5 สี แต่ที่เห็นกันส่วนใหญ่มี 2 สี คือ สีส้ม หรือ สีแดง จะมีอุณหภูมิทำงานอยู่ที่ 57-77 องศาเซลเซียส ติดตั้งในบริเวณเพดาน มีอุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส และสีเหลือง หรือ สีเขียว จะมีอุณหภูมิทำงานอยู่ที่ 79-107 องศาเซลเซียส
โดยแต่อาคารประเภทโรงแรม ตามกฎหมายระบุว่า จะต้องติดตั้งเครื่องจับควันเป็นอย่างน้อย แต่หากโรงแรมมีพื้นที่มากว่า 2,000 ตารางเมตร ก็ต้องมีระบบแจ้งเตือนภัย หรือ หากเป็นอาคารสูง 23 เมตรขึ้นไป จะต้องติดตั้งสปริงเกอร์ ป้ายบอกทางหนีไฟ และระบบจ่ายน้ำ ในกรณีของ “โซเนวา คีรี ” ที่ถูกไฟไหม้บนเกาะกูด ต้องดูว่ามีขนาดพื้นที่เท่าไหร่ เข้าเกณฑ์ของกฎหมายหรือไม่
นอกจากการติดตั้งอุปกรณ์ตามกฎหมายบังคับแล้ว ยังมีเรื่องการตรวจสอบอาคารด้วย เพื่อดูความมั่นคงตัวอาคาร ระบบป้องกันภัย และแผนเผชิญเหตุ / แต่ข้อกำหนดนี้ จะครอบคลุมเฉพาะโรงแรมที่ห้องพัก 80 ห้องขึ้นไป จะต้องตรวจสอบปีละ 1 ครั้ง
นอกจาก พ.ร.บ.ควบคุมอาคารแล้ว ยังมี พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ห้องแถว ตึกแถว บ้านแถว บ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด ที่สูงไม่เกินสองชั้น ต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงแบบมือถือคูหาละ 1 เครื่อง เครื่องดับเพลิงต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตลอดเวลาใช้งานได้สะดวก และอาคารที่สูงไม่เกินสองชั้น ต้องมีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ติดตั้งอยู่ในอาคารอย่างน้อย 1 เครื่องทุกคูหา