รุ่นน้องแฉพฤติกรรมรุ่นพี่รับน้องรุนแรง

คำบอกเล่าของหนึ่งในนักศึกษาปีที่ 1 สาขาวิชาช่างกลโรงงาน  วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ถึงพฤติกรรมของรุ่นพี่  ระหว่างพารุ่นน้องเข้าไปทำกิจกรรมรับน้อง จนทำให้ นายพัสยศ ชนภักดี หรือ น้องเปรม ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

นักศึกษารุ่นน้อง เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุมีกลุ่มรุ่นพี่ประมาณ 20 คน ประสานรุ่นน้องทั้งชาย และหญิง จำนวน 38 คน ไปจัดกิจกรรมรับน้องในป่าที

เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 13 มีนาคมโดยรุ่นพี่ขับรถกระบะ 4-5 คันมารับกลุ่มรุ่นน้องเข้าไปในไร่อ้อย ลักษณะโล่งเตียน โดยจุดบริเวณเกิดเหตุมืดมาก

ก่อนเกิดเหตุ รุ่นพี่สั่งให้รุ่นน้องผู้ชายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด นอนเรียงแถวกับพื้น หากไม่พอใจก็จะถูกกลุ่มรุ่นพี่ชกที่หน้าท้องหรือถีบหลัง และร้องเพลงสาขา หากใครร้องผิด  หรือรุ่นพี่ไม่พอใจก็จะถูกทำโทษ  ใช้วิธีแตกต่างกันไป ทั้งให้ลุก-นั่ง หมอบคลาน ปักหัวลงพื้น ต่อยท้อง โดยวิธีการต่อยท้อง จะให้รุ่นน้องทั้งหมด ยืนเรียงหน้ากระดานแล้วเกร็งท้อง ให้รุ่นพี่ 7 คน ต่อยท้องจนครบแถว รุ่นพี่คนหนึ่งจะต่อยอยู่ 2-3 ครั้ง นั่นหมายความว่ารุ่นน้องคนหนึ่ง ต้องถูกต่อยท้องตั้งแต่ 14-21 ครั้ง ต่อการลงโทษหนึ่งรอบครับ

ในส่วนของเปรม ก็โดนทำโทษเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ถูกต่อยท้อง หมอบคลาน ซึ่งคาดว่าน่าจะเหนื่อยสะสมหลายอย่างจนไม่สามารถทนได้ ก่อนสลบลงไป และเสียชีวิต

ขณะที่รุ่นพี่ชั้นปี 2  ยอมรับว่า ในการจัดกิจกรรมรับน้อง มีการทำร้ายร่างกายน้องจริงโดยต่อยเข้าบริเวณท้อง ซึ่งความรุนแรงจะแล้วแต่รุ่นพี่แต่ละคนว่าจะใช้วิธีการไหนในการลงโทษน้อง โดยหากมีใครคนใดคนหนึ่งทำผิดกฎที่ตั้งไว้ เช่น ร้องเพลงสาขาผิด ก็จะโดนลงโทษทั้งกลุ่มเหมือนกัน ไม่ได้โกรธแค้นใครคนใดคนนึงแล้วจะทำร้ายร่างกายหรือรับน้องแรง

ซึ่งการรับน้องโดยปกติแล้วจะมีการแยกผู้หญิงและคนป่วย ออกจากกลุ่มนักศึกษาปกติ เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยคาดว่าน้องเปรมป่วยตั้งแต่ทีแรก แต่ไม่ยอมบอก รวมถึงมีการดื่มแอลกอฮอล์ พอถูกสั่งลงโทษ เลยทำให้อาการหนักขึ้น

ส่วนตัวตนเองไม่ได้เข้าไปทำร้ายน้องแต่เห็นเหตุการณ์หลังจากที่น้องล้มลงไปก็เป็นคนพาไปโรงพยาบาล หลังจากรู้ว่าน้องเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจ อยากขอโทษครอบครัวของน้อง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายน้องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุเกิดจากความไม่รู้

ส่วนความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมะเริง บอกว่าล่าสุดได้สอบปากคำรุ่นพี่ปีสองและพยานที่เป็นรุ่นน้องปีหนึ่งแล้วบางส่วน ในกลุ่มที่คาดว่าเป็นคนจัดกิจกรรมและมีการทำร้ายร่างกายนายตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย รวม7คน

หลังจากนี้ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนของคนที่เป็นผู้ขับรถ รับนักศึกษาไปยังจุด จัดกิจกรรม รวมถึงค้นหาสถานที่จัดกิจกรรมด้วยว่าทำไมเลือกใช้ที่ป่าห่างไกลสายตาคน

ขณะที่นายสรวิช ต.ศิริวัฒนา ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยมีประกาศงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ประจำปีการศึกษา 2564 โดยงดจัดกิจกรรมทั้งในและนอกสถานที่ เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการจัดกิจกรรมภายนอก ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยเนื่องจากเป็นการนัดหมายกันเอง ทำให้ยากที่จะดูแลได้ทั่วถึง

รวมถึงขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการเรียนออนไลน์นักศึกษาแต่ละคนแยกย้ายอยู่ตามที่พักของตนเองทำให้การควบคุมนักศึกษาอาจไม่ทั่วถึงซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโดยเน้นย้ำให้อาจารย์ที่ปรึกษาคอยสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น