เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา เข้ายื่นหนังสือขอให้รับคดี "แตงโม" เป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่ามีเงื่อนงำหลายอย่าง ท่ามกลางกระแสตำรวจเตรียมสรุปสำนวนคดีสิ้นเดือนมีนาคมนี้
ในเอกสาร ระบุ ความสงสัยในการทำงานของตำรวจ ที่มีทิศทางในการดำเนินคดีว่าประมาทหรืออุบัติเหตุ แต่พยานหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจจะเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง โดยมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง และมีขบวนการทำลายพยานหลักฐาน
โดยอาจมีการเบี่ยงเบนผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ให้เสมือนว่าเป็นการจมน้ำตายธรรมดา คดีนี้จึงไม่อาจให้พนักงานสอบสวนในคดีปกติทำหน้าที่ได้ ต้องใช้หน่วยงานที่มีวิธีการสอบสวนคดีพิเศษ โดยบุคลากรที่มีความหลากหลายทางอาชีพ
อธิบดีกรมธนารักษ์ เตรียมลุยตรวจที่ดิน "วิโมกสิวาลัย" สาขาปฏิบัติธรรมวัดท่าไม้
ภายหลังการยื่นหนังสือ น.ส.รสนา ออกมาให้สัมภาษณ์ เผยว่า ตามที่อธิบดีดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า คดีคุณแตงโม เป็นคดีความผิดต่อร่างกาย ซึ่งไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ แต่ตนเองมองว่า คดีนี้ทำให้สังคมกังวลสงสัย อยากให้มีการพิสูจน์ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพราง ซึ่ง แตงโม เป็นผู้หญิง เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต ตนเองจึงมายื่นขอให้อธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ก่อนที่หลักฐานจะสูญหาย
โดยประเด็นที่สงสัย ได้แก่ เรื่อง บาดแผลในร่างกายแตงโม พยานวัตถุ เช่น เรือ รวมถึงพฤติกรรมกลุ่มเพื่อน ที่คนตกน้ำไปทั้งคนแต่ไม่ช่วยกัน และประเด็นอื่น ๆ โดยการมายื่นเรื่องในวันนี้ยังไม่ได้ประสานแม่ของคุณแตงโมไว้ก่อน แต่มาเองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเท่าที่พูดคุย หากญาติมายื่นเรื่องเอง จะทำให้การเดินเรื่องสะดวกกว่า
ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ มองว่า การทำงานที่ผ่านมา ตำรวจไม่สามารถอธิบายถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ จึงทำให้ขบวนการหาพยานหลักฐานไม่ครบถ้วนรอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องบาดแผล เกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกน้ำ เกิดบนเรือหรือไม่ ซึ่งมีผลต่อรูปคดี รวมถึงการตกน้ำ ตกในสภาพที่มีสติหรือหมดสติ เพราะหากประเด็นเหล่านี้คลี่คลาย ข้อหาอาจไม่ใช่อุบัติเหตุ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดโครงการใหม่ในกทม.ปี 65 เพิ่ม 62.2%
ขณะที่ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คดีของแตงโมไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขคดีพิเศษ แต่ก็สามารถนำเข้าเป็นกรณีพิเศษได้ โดยต้องผ่านที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญ ทำให้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณา ส่วนจะทันหรือไม่ทันกับการสรุปสำนวนของตำรวจภูธรภาค 1 ก็ต้องพูดคุยกับตำรวจว่าจะสรุปสำนวนไปในทิศทางไหน