เผยครูคิดสั้นเพราะถูกกดดัน-ตัดเงินเดือน

ทีมข่าวได้คุยกับน.ส.เอ(นามสมมติ)ศิษย์ปัจจุบัน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าเหตุที่ตนออกมาพูดเนื่องจากต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครูวิลาวัลล์  เพราะครูทุกคนหลังจากเกิดเหตุเอาแต่ปิดปากเงียบกันหมด แต่นักเรียนทุกคนดูออกว่าสาเหตุมาจากอะไร

เธอยังทราบด้วยว่าครูที่โรงเรียนไม่ได้มางานศพทุกวัน อยากให้แสดงความเสียใจมากกว่านี้ เพราะตอนนี้ติดต่ออาจารย์กี่คนก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง ทั้งที่อาจารย์บางคน ก็สนิทกับอาจารย์วิลาวัลล์

เจ้าสาวโดนหนุ่มอ้างเป็นจ่าสิบเอกเทงานแต่ง ต้องจำใจเข้าพิธีเพียงลำพัง

ราคาน้ำมัน! โออาร์-บางจาก ปรับขึ้นเบนซิน 80 สตางค์ แก๊สโซฮอล์95 พุ่งทะลุ 41 บาท/ลิตร

น.ส.เอ กล่าวถึงกระบวนการหาสรรหานักเรียนในโรงเรียน ว่าครูในโรงเรียนทุกคนจะต้องเปิดเพจ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ หานักเรียนมาเรียนมาในโรงเรียนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้คุณครูประจำชั้นของแต่ละชั้นเรียน ยังให้นักเรียนในสังกัดของตัวเองช่วยหานักเรียนมาให้ หากหามาได้กี่คน จะได้ค่าตอบแทนหัวละ 500 บาท

เอบอกว่า เธอเข้ามาเรียนจากการชักชวนจากรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งรุ่นพี่ก็ได้เงินค่าชักชวน 500 บาท หลังมาเรียน เธอเองเคยชวนคนมาเรียนได้ 1 คน ก็ได้มา 500 บาท ยืนยันครูทุกคนทำแบบนี้หมด แต่ตนไม่ทราบส่วนแบ่งรายได้ของครู และครูเน้นย้ำให้ช่วยหาคนให้ครู และแข่งกันหาให้ได้

โดยเป้าหมายการหานักเรียน ต้องได้ 50 คนต่อเทอม หากหาไม่ได้ก็จะถูกไล่ออก หรือตัดเงินเดือน เหตุผลนี้ตนไม่ได้พูดมาขึ้นเอง แต่เคยได้ยินคุณครูท่านหนึ่งบ่นว่าหากครูหานักเรียนไม่ได้ตามเป้า ก็จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน

การที่ครูวิลาวัลย์ฆ่าตัวตายตนคิดว่ามาจากสาเหตุมาจากความกดดันหลายด้าน ล่าสุดทราบว่าครูถูกปลดจากงานธุรการการเงิน และถูกลดเงินเดือนไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งตนไม่ทราบว่าครูได้เงินเดือนเท่าไหร่ เรื่องนี้จึงอาจทำให้กดดันมากขึ้นไปอีก หลังจากเกิดเหตุครูทุกคนยังปิดปากเงียบ

ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากำกับดูแล และอยากให้โรงเรียนเลิกใช้กระบวนการหาเด็กแบบนี้ ขอให้เลิกไป 

นอกจากนี้น.ส.เอ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเวลาตนเองไปโรงเรียนครูบางท่านไม่ค่อยเคร่ง บางท่านนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ แต่ไม่สอน ซึ่งค่าเทอมของตนเองในระดับ ปวช. อยู่ที่ประมาณ 2,700- 3,000 บาทต่อเทอม

ขณะที่บรรยากาศช่วงเย็นที่วัดพงษาราม อ.พนมสาคาม จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีทางญาติและคณะครูมาร่วมประชุมเพลิง โดยนายจรูญ เจริญลักษ์ ผอ. วิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา เล่าว่าหลังเกิดเหตุตนเองยอมรับว่าเครียดมาก ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายที่ว่าจากการหายอดนักเรียน ตนเองคิดว่าไม่เป็นความจริง

หากถามสาเหตุการตายตนคาดว่ามี 2 ประเด็นคือ 1.ผู้ตายป่วยซึมเศร้า เวลาเรียกคุยก็จะค่อนข้างซึมตลอด และเคยคิดฆ่าตัวตายมา 1 ครั้งแล้ว

ประเด็นที่ 2. เรื่องเงิน เนื่องจากผู้ตายอยู่ฝ่ายการเงิน และต้องมีหน้าที่รวบรวบเงินกองทุนครูเอกชนไปส่งต้นสังกัด แต่ผู้ตายเอาเงินส่วนนี้ไปใช้หลายเดือนโดยไม่ส่ง คือมี 2 ประเด็นนี้ ซึ่งรร.เคยให้ออกจากงานไปช่วงหนึ่ง และเมตตาให้มาทำงานใหม่

ด้านวิธีการหายอดนักเรียนที่เป็นประเด็นตนยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องเปิดช่องทางโซเชียล เพราะลงพื้นที่แนะแนวไม่ได้ในช่วงโควิดระบาด เน้นย้ำให้ครูทุกคนทำ จุดประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์ หานักเรียนที่จบ ม.3 มาเรียนต่อ ปวช.ที่นี่

เรื่องการกดดันในที่ทำงานก็เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้กดดันว่าต้องได้ยอด 50 คนต่อเทอม หรือมากกว่านั้น และยืนยันไม่ได้ลดเงินเดือนครู หรือไล่ออกหากทำยอดไม่ได้

ส่วนประเด็นครูในโรงเรียนวานจ้างนักเรียน หัวละ 500 บาท ชักชวนคนมาเรียน ตนยืนยันว่าเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของครูแต่ละคน  แม้ตนจะเป็น ผอ. ก็ยังต้องหาเด็กมาเรียนเช่นกัน เพราะเด็กนักเรียนไม่ได้มีมากมาย ด้านส่วนแบ่งอาจจะออกมาในรูปแบบโบนัส ที่ตกลงกันแต่ละคน ตรงนั้นตนไม่ทราบรายละเอียดเพราะตนไม่ได้เป็นเจ้าของโรงเรียน

หลังเกิดเรื่อง ผอ. เผยว่า ตนก็กังวลว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ แต่เบื้องต้นตนก็รายงานอาชีวะจังหวัดฉะเชิงเทราไปแล้ว ว่าสาเหตุมาจากอะไร

หากคนมองว่าเป็นธุรกิจ ตนยืนยันไม่เกี่ยวการฆ่าตัวตาย ทุกปีการหาเด็กมาเรียนถือเป็นเรื่องปกติ เพราะโรงเรียนไม่ได้มีชื่อเสียง และไม่จริงที่อยากได้วุฒิการศึกษาแล้วมาเรียนที่นี่สามารถจบได้เลย ต้องเรียนตามระบบเหมือนทุกโรงเรียน

สุดท้ายอยากฝากบอกสังคมว่าทางวิทยาลัยไม่ได้มีการกดดันอะไร เพราะเป็นหน้าที่ ที่ครูทุกคนต้องทำการประชาสัมพันธ์โรงเรียน