ย้อนข้อหา "บอส วรยุทธ" อีก 5 ปีหลุดทุกคดี

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จากกรณี ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ประกาศใช้ ส่งผลทำให้ โทษของการเสพโคเคน ถูกลดจาก 10 ปี เหลือ 5 ปี หนึ่งในคนที่ได้ประโยชน์จากการปรับแก้กฎหมายครั้งนี้ คือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 เพราะ บอส วรยุทธ ถูกดำเนินคดี 5 ข้อหา หนึ่งในนั้น คือ เสพโคเคน ซึ่งผลจากการปรับแก้ ทำให้ตอนนี้ เหลือข้อหาที่จะเอาผิด บอส วรยุทธ ได้ แค่ 1 ข้อหา และ คดีนี้จะหมดอายุ ปี 2570 คืออีก 5 ปี

ไล่เรียงคดีความของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ข้อหาเสพโคเคน ตอนนี้หมดอายุไปแล้ว ตามที่มีการประกาศใช้ ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ลดโทษการเสพโคเคย จาก 10 ปี เหลือ 5 ปี

ส่วนข้อหาที่ยังเหลืออยู่ คือ ขับรถโดบประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะหมดอายุความ 3 กันยายน 2570 หรือ อีก 5 ปีข้างหน้า

กก.สอบชุดวิชา”เชื่อ“คดีบอส วรยุทธ” เดิมพันความจริงใจรบ.

เผยเบื้องหลังนำ 2 พยานพลิกคดี“บอส อยู่วิทยา” เข้าสำนวนผ่านกมธ.สนช.

ข้อหานี้เป็นข้อหาสุดท้ายแล้ว ที่ยังมีเหลืออยู่ เพราะ อีก 3 ข้อหา ที่ถูกสั่งฟ้อง หมดอายุความไปก่อนหน้านี้แล้ว คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หมดอายุความไปตั้งแต่ 3 กันยายน 2556 ส่วน ขับรถชนผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ อายุความ 5 ปี หมดอายุความไปตั้งแต่ 3 กันยายน 2560  ส่วนข้อหาขับรถขณะเมาสุรา ไม่มีการสั่งฟ้องตั้งแต่ชั้นตำรวจ

ประเด็นเรื่องบอส วรยุทธ ได้ประโยชน์จากการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดทำให้ถูกวิจารณ์เรื่องการทำงานของตำรวจและอัยการ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบรามยาเสพติด หน่วยงานที่เผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับยาเสพติด ถูกโจมตีอย่างมาก ทำให้ ต้องออกมาชี้แจงว่า การปรับแก้กฎหมายไม่ได้มีเจตนาเอื้อบอส วรยุทธ

พร้อมย้ำว่า ต่อให้ไม่มีกฎหมายใหม่นี้ ข้อหาโคเคนของบอส วรยุทธ ก็จะหมดอายุความ 3 กันยายน ปีนี้อยู่แล้ว

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ย้ำว่า ข้อหาโคเคนของ บอส วรยุทธ เป็นเพียงผลพวงจากการปรับกฎหมาย ไม่ใช่ช่องว่างทางกฎหมายหรือมีการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องหาแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงการติดตามตัว บอส วรยุทธ มารับโทษในข้อหาที่ยังเหลืออยู่นั้น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดบอกว่า เป็นภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องประสานตำรวจสากล โดยใช้ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งหากได้แหล่งที่อยู่ของนายวรยุทธชัดเจน พนักงานสอบสวน ถึงจะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อประสานไปยังประเทศนั้นๆ ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประสานข้อมูลและเบาะแสอยู่

ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตำรวจในการดำเนินคดีนายวรยุทธนั้น ส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วง ในเรื่องนี้ มองว่าทุกอย่างเป็นตามกระบวนการทางกฏหมาย

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ