เปิดพฤติกรรมกลุ่มป่วนใต้ มุ่งเป้าทำลายศก.

ชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบความเสียหาย บริเวณปั้มบางจาก บ้านดอนยาง หมู่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 18 จุดที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดและวางเพลิงเมื่อคืนที่ผ่านมา 

การตรวจสอบพบว่า ตู้หัวจ่ายน้ำมันได้รับความเสียหายรวม 7 หัว ตู้สำนักงานของเสมียนปั้มเสียหาย 1 หลัง อาคารเติมน้ำมันพังถล่มลงมา รถน้ำมันและมีรถบรรทุกเสียหาย ส่วนห้างมินิบิ๊กซี ที่อยู่ภายในปั้ม ได้รับความเสียหายเล็กน้อย จากเพลิงไหม้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณดังกล่าวไว้ เพื่อหาพยานหลักฐาน

ป่วนใต้! บึ้ม 11 จุด 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไฟไหม้วอด-เผาร้านสะดวกซื้อ

กรมชล เตือน 7 จังหวัดริมโขง เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

ซึ่งที่ปั้มน้ำมันแห่งนี้ นับเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด การสอบถามข้อมูลทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายพรางตัว โดยแต่งกายคล้ายกับผู้หญิง ขี่รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ นำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส ไปวางไว้ตรงหัวจ่ายน้ำมัน ก่อนจะจุดชนวนระเบิด แล้วก็เกิดไฟไหม้

สอดคล้องกับข้อมูลการตรวจสอบของ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดและจุดไฟเผาทั้ง 18 จุด ในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาสนั้นน่าจะเป็นฝีมือของบุคคลกลุ่มเดียวกัน

เพราะจากพฤติกรรมที่ก่อเหตุเหมือนๆ กัน เกือบทุกจุดคือ มีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุพรางตัว โดยแต่งกายคล้ายกับผู้หญิง แล้วใช้ระเบิดที่เตรียมไว้ ส่วนใหญ่เป็นระเบิดเพลิง ระเบิดขว้าง และระเบิดแสวงเครื่องตามพื้นที่เป้าหมาย 

และหากพิจารณาจากจุดก่อเหตุทั้ง 18 แห่ง จะเห็นว่าคนร้ายมุ่งสร้างความเสียหายให้กับ ร้านสะดวกซื้อ 11 แห่ง มินิบิ๊กซี 4 แห่ง ปั้มน้ำมัน 1 แห่ง และเสาสัญญาน 2 แห่ง ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจ จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้มุ่งหวังจะทำลายภาพลักษณทางเศรษฐกิจ สร้างความเดือดร้อน และความหวาดระแวงให้กับประชาชนด้วย

เบื้องต้น พล.ต.ปราโมทย์ บอกว่ายังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่า อะไรเป็นมูลเหตุจูงใจการก่อเหตุ  แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูดคุยสันติสุข ประเด็นทางการเมือง หรือความขัดแย้งอื่น  ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกในรอบด้าน

ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ หลังจากเกิดเหตุขึ้น ก็ได้กำชับกองกำลังให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสถานที่สำคัญ ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ และจุดล่อแหลมต่างๆ  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำอีก