ภายหลังมีกระแสข่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีการทุจริตเงินอาหารกลางวันของนักเรียน โดยมีภาพข่าวปรากฏให้นักเรียนกินขนมจีนราดน้ำปลา คดีนี้เมื่อ 21 ต.ค. 2565
มีรายงานว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขคดี ดำ อท.29/2564 เลขคดีแดง อท.42/2565 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
กระตุ้นพัฒนาการ "เด็กวัยเรียน" จัดอาหารกลางวันต้องมีคุณภาพ
“เงินอุดหนุนบุตร” เช็กเงื่อนไขรับสิทธิ-ปฏิทินรับเงิน ที่นี่!
ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 เเละอื่นๆ กรณีที่เคยปรากฏเป็นข่าวการจัดอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลด้วยการให้กินเส้นขนมจีนกับน้ำปลา
ใจความสำคัญคดีนี้ ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 162(1)(4)(เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 121/1 การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) มาตรา 162(1)(4)(เดิม) กับความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151(เดิม)
ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และการกระทำของจำเลยในแต่ละครั้งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 77 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 385 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)
โดยศาลได้พิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามฟ้องและพยานหลักฐานโจทก์ตามทางไต่สวนแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยในแต่ละกระทงความผิดแม้คิดคำนวณได้เป็นตัวเงินไม่มากนัก แต่จำเลยได้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งจำเลยเป็นผู้บริหารโรงเรียนแต่กลับอาศัยอำนาจหน้าที่เบียดบังเอาผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้ทำให้เด็กนักเรียนในปกครองไม่ได้รับอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ และจำนวนที่เพียงพอต่อการพัฒนาการทางร่างกายและย่อมส่งผลเสียในระยะยาว พฤติการณ์แห่งคดีจึงร้ายแรงไม่สมควรรอการลงโทษ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โดยคดีนี้หลังจากที่มีการพิพากษาแล้วปรากฏว่าศาลยังปราณี ให้จำเลยได้ยื่นคำร้องประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์ จำเลยได้วางหลักทรัพย์ไว้จำนวนหนึ่ง ศาลได้พิจารณาให้ประกันตัวปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีกำหนดการยื่นอุทธรณ์นับแต่วันฟังคำพิพากษาเป็นเวลา 30 วัน แต่จนถึงขณะนี้ปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้มีการยื่นอุทธรณ์ แต่ได้มีการยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว.