ย้อนเหตุสังหารหมู่หนองบัวลำภู โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญคนไทย

โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา ประมาณ 11.24 น.วันที่ 6 ต.ค. 2565 เมื่อ อดีตตำรวจยศ ส.ต.อ.ที่ถูกไล่ออกราชการ ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาวออกมาจากบ้านพัก และถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์เวลา 12.50 น. ขณะเกิดเหตุในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ เป็นช่วงพักกลางวัน เด็กเล็กก่อนวัยเรียนอายุ 2-5 ขวบ ทั้งชายและหญิงกำลังนอนหลับ มีครูพี่เลี้ยง 6 คน ดูแลอยู่

สามีครูพร เหยื่อกราดยิงหนองบัวลำภูโพสต์ระบาย หลังไม่นับรวมลูกในท้อง

เปิดใจเจ้าของโรงโม่ นำเด็กหลบที่ปลอดภัย หลังทราบเหตุสังหารหมู่

จากนั้น ผู้ก่อเหตุใช้ปืนซิก ซาวเออร์ พี350 ลั่นไกยิงพ่อลูกที่อยู่ด้านหน้าศูนย์ฯ เสียชีวิตทันที 2 คน และได้ก่อเหตุสังหารหมู่จนมีเด็กเสียชีวิต 22 คน ชาย 19 และ หญิง 3

หลังจากนั้น คนร้ายเดินทางกลับไปที่บ้านพัก และ ขับรถกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์พร้อมใช้ปืนยิงผู้สัญจรทางถนนซ้ำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีและที่โรงพยาบาลรวม 7 ราย

เมื่อบ้านพักภายในหมู่ 1 บ้านท่าอุทัย คนร้ายยังสังหารคนผ่านทาง ก่อนจุดไฟเผารถยนต์ที่ใช้หลบหนี ยิงสังหารลูกเลี้ยงและภรรยา รวมถึงตนเองจนถึงแก่ความตาย

จากการสอบสวนของตำรวจ พบว่า คนร้ายมีแรงจูงใจมาจากความเคียดแค้นที่ถูกไล่ออกจากราชการ ประกอบกับที่ผ่านมามีอาการหลอนยาจากการเสพยาบ้า

เหตุช็อกโลกในครั้งนี้ ทำให้สังคมไทยกดดันไปยังรัฐบาล และ วิพากษ์วิจารณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่สามารถควบคุมปราบปรามเรื่องอาวุธปืน และยาเสพติดได้

อีกทั้งจากการศึกษาของ Early Warning Project โครงการเพื่อการศึกษาป้องกันเหตุรุนแรง ระบุว่า ในปี 2021-2022 อันดับความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุสังหารหมู่ของประเทศไทย เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 42 ในปีที่แล้ว มาอยู่อันดับที่ 19 จาก 162 ประเทศทั่วโลก

ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง (Top 30) โดยพิจารณาจากประชากรที่มาก ประวัติการเกิดเหตุลักษณะนี้ (เช่น เหตุกราดยิงโคราช) และอัตราการครอบครองปืนที่ถือว่าสูง

ข้อมูลเมื่อปี 2017 จากองค์กรวิจัยในสวิตเซอร์แลนด์ Small Arms Survey ระบุว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรเกือบ 69 ล้านคน มีปืนที่ครอบครองโดยพลเรือนอยู่ราว 10.34 ล้านกระบอก ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก และมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

จนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องถอดบทเรียนพร้อมวางมาตรการเร่งด่วน ป้องกันเหตุซ้ำในอนาคต ยกให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน เป็นวาระแห่งชาติ

สังหารหมู่หนองบัวลำภู นับเป็นคดีร้ายแรงในประวัติศาสตร์ไทย และเป็นคดีที่คนไทย เร่งกดดันรัฐบาลให้หามาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก