มีภาพจากคลิปวิดีโอที่เด็กนักเรียนถ่ายภาพชายที่ก่อเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามรถรับ-ส่งนักเรียน โรงเรียนบ้านเล้าวิทยาคาร อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
โดยชายคนนี้ขี่จักรยานยนต์ตามในระยะกระชั้นชิด บางจังหวะเด็ก ๆ บนรถยังตะโกนบอกกับชายคนนี้ว่า มีดที่เหน็บอยู่ตรงเอวหล่น ทำให้ชายคนนั้นชะลอรถและจับบริเวณเอว ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ต่อ
แต่เด็กนักเรียนและครูประจำรถก็ไม่มีใครเอะใจเลยว่า ชายคนนี้จะมาก่อเหตุ ทำร้ายนักเรียนจนเสียชีวิต
สภาพอากาศวันนี้! ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศา มีฝนในอีสาน-ใต้-ตะวันออก
5 อาหารทำลายกระดูก กินบ่อยๆ เสี่ยงกระดูกบาง-หักง่าย
กระทั่งถึงโรงเรียน พอรถรับส่งหยุดรถที่บริเวณหน้าประตู ชายคนนี้ก็จอดรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งขึ้นไปบนรถนักเรียน เดินตรงเข้าไปหา “น้องคิตตี้” อายุ 14 ปี ที่กำลังลุกขึ้น แล้วใช้มีดแทง บริเวณต้นคอ และหน้าอก จนเด็กล้มลงหมดสติ ท่ามกลางความตกใจของเด็กคนอื่น ต่างวิ่งหนีกันชุลมุน ยังดีที่ครูและชาวบ้านในที่เกิดเหตุ ช่วยกันจับตัวชายคนนี้ไว้ได้
ครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นผู้ปกครองของเด็ก ที่อาจจะเอาของหรือเอาเงินมาให้ลูกหลาน จึงไม่ได้เอะใจอะไร
สำหรับผู้ก่อเหตุ คือ นายปรีชา วิชัยศร อายุ 37 ปี เป็นเพื่อนบ้านกับเด็กหญิงที่เสียชีวิต ห่างกันเพียง 100 เมตรเท่านั้น นายปรีชา อ้างว่า ลงมือก่อเหตุ เพราะเจ็บแค้น ที่เด็กหญิงนำยาหมาแดง ซึ่งเป็นยาฆ่าหญ้า มาใส่น้ำให้ดื่มกิน ทำให้เขาท้องเสียมาหลายวันแล้ว และตอนเช้าก่อนเกิดเหตุก็เห็นเด็กเดินผ่านหน้าบ้าน ทำปากขมุบขมิบ เหมือนท่อง หรือ ว่าอะไรตัวเองสักอย่าง จึงเกิดความโกรธหยิบมีดตามไปทำร้าย
ด้าน นางกฤษฎา ผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ฟังว่า คนร้ายไม่เคยมีเรื่องกับครอบครัวเด็ก และไม่ได้เป็นญาติแค่มีบ้านอยู่ใกล้กันเท่านั้น ซึ่งคนร้ายเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 และติดคุกมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะติดคุกเคยขู่อาฆาตกับคนในหมู่บ้านไว้ว่า ออกมาเมื่อไรจะฆ่าให้หมด ชาวบ้านคอยระวังตัวมาตลอด ไม่มีใครอยากผ่านหน้าบ้านของคนร้ายเพราะกลัวไม่ปลอดภัย วันดีคืนดีก็ไล่ฟันชาวบ้าน นอกจากนี้คนร้ายยังเคยเสพยาเสพติดจนหลอนชอบคิดว่า จะมีคนตามฆ่าอยู่เสมอ ไม่ไว้ใจใคร แม้กระทั่งอาหารก็ไม่กินของคนอื่น กลัวจะถูกวางยา
ด้านคดี ตำรวจตรวจสอบ เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีเป้าหมายหลักที่เด็กนักเรียนคนนี้เท่านั้น เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ หากพนักงานสอบสวน พบการกระทำผิดเพิ่มเติม ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากอาการป่วยทางจิต เพราะมีประวัติเสพยามานาน
ไทยพบโควิดลูกผสม "XAY.2" 1 ราย ขออย่ากังวลไม่ได้แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น