เป็นประเด็นใหญ่ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ กรณีที่ "จีจี้" เน็ตไอดอลชื่อดังเสียชีวิตอยู่ภายในห้องคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านอโศก พร้อมกับชายหนุ่มซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหาร และ เป็นลูกของนายทหารระดับสูงยศ "พลเอก"
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ทั้ง 2 คน ถูกยิงที่ศีรษะ ศพนอนอยู่ใกล้กันในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก และปลอกกระสุน ตกอยู่ 2 ปลอก
ส่วนจะเป็นการยิงกันเองเสียชีวิต หรือ มีคนอื่นเกี่ยวข้องยังต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าใครเข้าออกห้องนี้บ้าง แต่เบื้องต้น ในห้องไม่พบร่องรอยการรื้อค้น
ด้าน พ่อของจีจี้ ซึ่งมาติดตามคดี ที่ สน.มักกะสัน บอกว่า รู้ว่าลูกสาวกับฝ่ายชายเคยคบกัน และ เลิกรากันแล้ว 2 เดือนที่ผ่านมา จีจี้ บอกกับน้องสาวว่า ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง แถมยังเคยเอาปืนจ่อหัว จึงย้ายคอนโดฯ หนี มาเช่าอยู่ที่คอนโดที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม พ่อของจีจี้ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเขาถึงมีอาวุธปืนที่มีความรุนแรงขนาดนี้ไว้ใช้ติดตัว และอีกอย่าง คือ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงขึ้นไปที่ห้องลูกสาวได้ เพราะห้องพักต้องมีรหัสผ่าน
เปิดประวัติ "จีจี้ สุพิชชา" เน็ตไอดอลดีกรีสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปสวยเก่ง วัย 19 ปี
สุดช็อก! "จีจี้ สุพิชชา" เน็ตไอดอล เจ้าของเพจ "เรื่องของจี้" เสียชีวิต
ขณะที่โลกออนไลน์ ต่างมีการแชร์ข้อมูล และ เรื่องราวของทั้งสองคนที่เสียชีวิต พบว่า ฝ่ายชาย ชื่อว่า "อิคคิว" มีพฤติกรรม ชอบอาวุธปืน และศึกษาทั้งอาวุธปืนสั้น-ปืนยาวรวมถึงมีการแชร์คลิป ซ้อมยิงปืนเป็นประจำ
แม้ตำรวจยังไม่ระบุชัดว่า "อิคคิว" เป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่ภาพบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ปรากฏภาพการครอบครองอาวุธปืนร้ายแรง ทั้งปืนสั้น และปืนอานุภาพสูงบ่อยครั้ง ซึ่งตามข้อบังคับการครอบครองปืนของไทยนั้น กำหนดว่า ต้อง “บรรลุนิติภาวะ” หรือต้องอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
ในส่วนของ ครอบครัว "อิคคิว" ก็มีรายงานว่า "พลเอก" ผู้เป็นพ่อ ได้ติดตามมาที่คอนโดมีเนียมที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน หลังพยายามตามหาบุตรชาย มาตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2566 ตามที่ครูฝึกนักเรียนเตรียมทหารได้โทรศัพท์มาหาว่า ลูกชายยังไม่กลับเข้าโรงเรียน หลังหยุดกลับบ้านช่วงสงกรานต์
นอกจากนี้ยังพบว่ามีข้อความแช็ตของจีจี้และรูปภาพ ระบุว่าถูก แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ทุบตีบริเวณใบหน้า บวมช้ำ หนำซ้ำยังมีการส่งข้อความข่มขู่ ท้าทาย เช่น "กูใคร ถ้ากูทำให้มึงตาย มึงตายไปแล้วครับ" และคำด่าหยาบคาย ระบุว่า " เลิกกันแล้วจะไปกระโดดน้ำตายหรือกินยาให้ตายก็เรื่องของมึงนะ" รวมถึงพบข้อความแชท ที่ฝ่ายหญิงได้บล็อกข้อความของฝ่ายชาย แล้วฝ่ายชายพยายามต่อว่า โดยมีการขู่ให้รับสายโทรศัพท์และระบุว่า "ไม่งั้นกูยิงมึงแน่"
หลังจากนี้ ก็ต้องรอผลการชันสูตรศพ ทั้งรอยนิ้วมือ สารเสพติด และ ผลคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมอีกครั้ง