พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมร่วมกับคณะสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยเป็นประชุมนัดสุดท้าย ก่อนที่จะมีการสรุปสำนวนคดี นางสาวสรารัตน์ หรือ แอม เพื่อจะส่งให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ตรวจความเรียบร้อย ในวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ และจะมีการแถลงสรุปสำนวนคดีที่กองปราบ ในวันเดียวกัน โดยสำนวนคดีทั้งหมด 15 สำนวน แต่ละคดี แอม จะถูกแจ้งข้อหา 6-7 ข้อหา ซึ่งอัตราโทษในแต่ละคดีมีอัตราโทษสูงอยู่แล้ว ดังนั้นตำรวจมีความมั่นใจ ในพยานหลักฐานที่สามารถจะเอาผิดได้
สำหรับสารไซยาไนด์ซึ่งเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีหลักฐานชัดเจน ว่า แอม มีการสั่งซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายราย โดยแอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนนำไซยาไนด์ไปให้กับเหยื่อหลายราย โดยอ้างว่า เหยื่อได้นำไปทดลองผสมบุหรี่
“อัยการอาวุโส” ชี้แอมหมดสิทธิ์เว้นโทษประหารหลังยุติการตั้งครรภ์
ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มบุคคลใกล้ชิดแอม หลังจากที่ได้หารือกับพนักงานอัยการแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่จำเป็นต้องแจ้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หากพบผิดจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น
นอกจากนี้ จะมีการสืบสวนสอบสวนเรื่องเว็บพนันออนไลน์ที่เส้นทางการเงินของแอม เข้าไปเกี่ยวข้อง 70-80 ล้านบาท ว่ามีเว็บใดบ้าง หรือมีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าว
ส่วนที่ทนายออกมากล่าวหาว่า พนักงานสอบสวนกดดัน ทำให้ แอม มีอาการเครียด จนเกิดภาวะแท้งลูก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในการสอบปากคำผู้ต้องหาทุกครั้ง ภายในเรือนจำ จะได้รับอนุญาต และการดูแลจากกรมราชทัณฑ์เป็นพิเศษ โดยไม่มีการข่มขู่หรือบังคับผู้ต้องหาแต่อย่างใด ส่วนทนายความ จะพูดอะไรก็สามารถพูดได้
ส่วนประเด็นที่แอม พิจารณา อาจจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนนั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า ก็เป็นสิทธิของเขาที่สามารถทำได้ ไม่มีความกังวลที่ทางทนายของแอมจะฟ้องร้องกลับ