จากกรณีเหตุการณ์สุดสลด เมื่อครอบครัวหนึ่งเจอทางตันหนี้สินจากการค้ำประกันเงินกู้ แถมเคราะห์ซ้ำถูกแอปเงินกู้หลอกโอนเงินสูญกว่าล้านบาท จนผู้เป็นพ่อตัดสินใจฆ่ายกครัวหวังจบปัญหานั้น
ล่าสุดนายกฤษดา เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน รู้จักกันมานานแล้ว และเอ็นดูเด็กๆมาก สามีภรรยาคู่นี้เป็นคนดี ไม่มีทีท่าว่าจะไปทางรุนแรงเลย ส่วนตัวรู้สึกสลดใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ เป็นทางออกที่ดูแล้วอาจไม่สมเหตุสมผล แต่อาจจะด้วยความกดดันหลายๆด้าน เขามีปัญหา แต่เขาไม่เคยพูดคุยถึงปัญหาส่วนตัวให้ฟัง
สุดสลด!ฆ่ายกครัว คาดหนี้รุมเร้า ซ้ำโดนแก๊งคอลฯ หลอกสูญเงิน 1.7 ล้าน
ไร้เงินประกอบพิธีศพ! เหยื่อฆ่ายกครัว โรงเรียนฯขอรับบริจาค
ทั้งนี้ปัญหาเท่าที่ดู เขามีหมายศาลมาที่บ้านบ่อย มาจากต้นเหตุเรื่องรถ ที่เถ้าแก่คนเก่าของเขาให้เขาไปค้ำ แล้วเถ้าแก่เขาก็หนีไปแล้ว และตัวเขาก็ต้องมารับผิดชอบแทน บ้านก็จะโดนยึดขายทอดตลาด ซึ่งทั้งสองคนสามีภรรยาก็ยังทำงานปกติ วันเกิดเหตุตนก็ได้ยินเสียงแต่เหมือนเขาเปิดเสียงทีวีกลบ เพราะได้ยินเสียงทีวีดังมาก พอตนไปเรียกก็ไม่เปิดประตู ตนจึงโทรแจ้งความ
ซึ่งตนก็ไม่คาดว่าเขาจะเลือกใช้วิธีการนี้ เราเองก็สลดใจและเสียใจมาก ซึ่งไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้กับน้องที่รู้จักกันเลย และก่อนหน้านี้เมื่อวาน เห็นรถสีออกบรอนซ์มาจอด มีผู้ชายกับผู้หญิงรวมประมาณ 5 คน คาดว่าเป็นเจ้าหนี้ มาที่บ้าน และได้ลงมาคุยที่หน้าบ้านอยู่พักใหญ่ ซึ่งตอนที่ผู้ก่อเหตุเขาจะขับรถออกไปก็ยังโบกมือทักทายกันตามปกติ แต่เราก็ไม่รู้ว่าปัญหาเขาคืออะไร และมันจะหนักขนาดนี้ เขาอาจจะโดนกดดัน จากเจ้าหน้าหนี้ด้วย และเพิ่งมาทราบประเด็นทีหลังว่าภรรยายังมาโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ซึ่งภรรยาก็คงอยากเอาเงินส่วนนี้มาช่วยแบ่งเบาหนี้สามี
ด้านนายนราเศรษฐ์ อายุ 64 ปี เพื่อนบ้านอีกคน เปิดเผยว่า ตอนนั้นประมาณเที่ยงคืน ตนเองหลับอยู่ หัวหน้าของผู้ก่อเหตุโทรมาบอกให้ช่วยไปดู เพราะผู้ก่อเหตุโทรไปบอกหัวหน้าว่า เขาฆ่าลูกเมียหมดแล้ว เขาโทรมาให้เราไปช่วยเตือนสติ ตนเลยรีบวิ่งลงมาจากบ้าน และชวนเพื่อนข้างบ้านช่วยกันตะโกนเรียก แต่บ้านล็อคเสียงเงียบหมด ก็เลยโทรหาตำรวจ ทั้งนี้เมื่อเข้าไปก็พบศพภรรยา และลูกนอนเสียชีวิต มีบาดแผลที่ลำคอ ขณะที่ผู้ก่อเหตุ อยู่ในสภาพนอนหงาย แต่ยังมีชีวิตอยู่
“ปกติผู้ก่อเหตุเขาไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวหรือระบายอะไรให้ฟัง แต่เคยพูดอยู่ครั้งนึงว่า เขาเคยไปค้ำประกันรถและจะโดนยึดบ้าน และมีหมายศาลมา เขาเป็นคนดีมาก ไม่คิดว่าเป็นแบบนี้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เคยมีข้างบ้านเล่าให้ฟังว่า มีคนมาเยอะแยะเลย คาดมาทวงหนี้ ตอนหลังภรรยาเขาก็อยากจะช่วยสามี เลยไปกู้เงินในแอปเงินกู้แล้วโดนหลอก โดนหลอกไปหลายบาท
ด้าน พ.ต.อ. รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า จากการตรวจสอบครอบครัวนี้พบว่าก่อนหน้านี้คือช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนว่าถูกแอปเงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงินหนึ่งแสนบาท แต่ถูกให้โอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบ อะไรต่างๆจนกระทั่งมีการโอนเงินไปกว่าล้านบาท ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความก็มีการสั่งการอายัดบัญชีดังกล่าวและอยู่ในระหว่างดำเนินติดตามตัวบัญชีปลายทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งหลังจากนี้จะได้เร่งรัดฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการสืบสวนติดตามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ขณะที่ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุลงมือก่อเหตุ เพราะมีความเครียดเรื่องหนี้สิน ส่วนกรณีที่ถูกแอปพลิเคชั่นเงินกู้หลอกโอนเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาทนั้น ตอนนี้ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลเร่งไล่ล่า ซึ่งในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่มาติดตามความคืบหน้าคดีนี้ด้วยตนเอง
ส่วนอาการ ล่าสุดของผู้ก่อเหตุมีรายงานขณะนี้แพทย์สามารถช่วยชีวิตจนพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังคงต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากบาดแผลที่ลำคอค่อนข้างลึก ขณะที่โรงเรียนสาธิตบางแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนของลูกคนเล็ก ที่เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ได้เปิดบริจาคเงินเพื่อนำมาช่วยเหลืองานศพอีกทาง เบื้องต้นมียอดบริจาคแล้ว กว่า 4 หมื่นบาท
ขณะที่ นายศักดิ์สิทธิ์ ระพาเพท รองปลัดเทศบาลเมืองบางแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังญาติยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จะนำศพทั้ง 3 ร่าง ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ หรือ กลับไปที่ภูมิลำเนา จ.กำแพงเพชร เนื่องจากทางญาติที่เดินทางมาจากกำแพงเพชร เกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างทางจนต้องพากันเดินกลับไปก่อน อย่างไรก็ตาม เพื่อความสะดวก ทางเทศบาลบางแก้ว จะเดินทางไปติดต่อจองศาลาที่วัดหนามแดง ให้กับญาติผู้ตายไว้ก่อน เนื่องจากผู้ตายนั้น ญาติส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างจังหวัด ส่วนจะได้ข้อสรุปจากญาติยังไงนั้น ต้องรอให้ชัดเจนอีกครั้ง