ความคืบหน้าคดีหนุ่มโรงงานถูกฆ่า มัดมือมัดเท้า และถูกนำศพไปทิ้งไว้เลียบมอเตอร์เวย์ขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจจับกุมตัวนายกิต หรือ “ช่างกิต” ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้คุมตัวไปสอบปากคำต่อ นายกิตรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน คือ นายโอ๊ต, นายแท็ป, นายกรานต์ และนางสาวนิว โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาทั้ง 4 คน ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
แก๊งฆ่าหนุ่มโรงงาน 4 คนติดต่อมอบตัว
“หนุ่มโรงงาน” แชตบอกเมียทำผู้หญิงท้อง ก่อนพบเป็นศพถูกยิงหัวมัดมือเท้า
จากนั้นตำรวจคุมตัวนายโอ๊ตไปชี้จุดทิ้งรถรถจักรยานยนต์ของผู้ตายริมคลองส่งน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ขณะเดียวกันได้ตรวจค้นรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือ และเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ตายในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นช่วงบ่ายได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน
โดยพลตำรวจตรีฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คนอย่างแน่นอน ที่สำคัญมีการวางแผนมาแล้วทุกขั้นตอน เริ่มจากเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้ตายไปจนถึงขั้นตอนอำพรางศพ และก่อนวันเกิดเหตุ 6 วัน นายกิตได้ขับรถยนต์มิตซูบิชิ สีแดง ไปวนเวียนหน้าบ้านผู้ตายเพื่อดูความเคลื่อนไหว
จากนั้นคืนวันที่ 27 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไปรวมตัวกันที่อู่ของนายกิต ที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากนั้นได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปที่บ้านของผู้ตาย อาศัยช่วงเวลาที่ผู้ตายขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทำงาน ขับรถประกบ ปาดหน้าจนรถล้มและบังคับให้ผู้ตายขึ้นรถยนต์ไปด้วย ส่วนนายโอ๊ตลงไปขี่มอเตอร์ไซค์ของผู้ตายตามไป
และตามคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อ้างว่าหลังอุ้มผู้ตายขึ้นรถแล้วได้ขับวนกลับไปที่อู่ของนายกิตอีกครั้ง โดยเหลือแค่นายกิตกับผู้ตายไว้ในรถเพียง 2 คน ซึ่งนายกิตอ้างว่าตั้งใจจะเคลียร์ปัญหาส่วนตัวกับผู้ตาย แต่เคลียร์กันไม่ลงตัวจึงใช้ปืนยิงนายกิตจนเสียชีวิต จากนั้นจึงชำแหละมอเตอร์ไซค์ของผู้ตายและนำอาวุธปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งริมคลองส่งน้ำ
ทั้งนี้ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เพราะยังให้การไม่ตรงกัน ชุดสืบสวนจะไปหาหลักฐานเพิ่มอีกครั้ง ทั้งกล้องวงจรปิดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนปมเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องชู้สาว แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมดเพราะภรรยาของผู้ตายให้การว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุไม่รู้จักกัน
ส่วนประเด็นที่ว่าใครเป็นคนตอบแชทตคุยกับภรรยาของผู้ตาย พลตำรวจตรีฉัตรชัยบอกว่าประเด็นนี้ผู้ต้องหายังให้การไม่ตรงกัน และตำรวจก็ยังไม่เจอโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จึงยังสรุปไม่ได้ว่าใครคือคนตอบแชทตกับภรรยาผู้ตาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถึง 8 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นอำพรางศพ, ปล้นทรัพย์ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ข่มขืนใจผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อย่างละเอียดอีกครั้ง
“นาตาลี เกลโบว่า” เปิดใจครั้งแรก เลิกสามีเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เผยเรื่องยากที่สุดในชีวิต
ผลบอลเอเชียน คัพ 2023 เกาหลีใต้ ควง จอร์แดน เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย
ฟังความเห็น ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ มองก้าวไกล หากถูกยุบจะยิ่งเติบโต