พ่อโอ๊ต ยันลูกชายไม่เกี่ยว"ช่างกิต"อุ้มฆ่าสามี"น้องพร"

พ่อของนายนันทพัทธ์ หรือ “โอ๊ต” บอกว่า ลูกชายมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุถูกช่างกิตหลอกว่า ให้ไปเอารถจักรยานยนต์หลุดจำนำ ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติของลูกชายอยู่แล้ว ก็เลยตามขึ้นรถมิราจสีแดงไปกับช่างกิตด้วย ขณะที่อยู่ในรถก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ มารู้ตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงช่างกิตเรียกชื่อตนเองให้ลงไปเอารถ หลังจากเบียดรถของนายใหม่ล้มลงไปแล้ว โดยขณะนั้นไม่เห็นนายใหม่ และไม่เห็นจังหวะที่มีการพาตัวนายใหม่ขึ้นรถ จากนั้นตนเองก็ขี่รถจักรยานยนต์ของนายใหม่ไปจอดที่อู่ และกลับเข้าไปนอนที่บ้าน 

น้องสาวหนุ่มโรงงาน หาช่องฟ้องร้อง“น้องพร” มีชู้

หัวหน้างาน เผย "ช่างกิต" คิดว่า น้องพรท้อง เตรียมตั้งชื่อลูก สั่งทำสติกเกอร์ติดท้ายรถ

รายการเข้มข่าวเย็น

ส่วนจากนั้นที่มีรายงานว่านายโอ๊ตเป็นคนนำรถจักรยานยนต์คันนี้ไปชำแหละ พ่อของนายโอ๊ต บอกว่า จากการสอบถามลูกชาย ยอมรับว่าได้นำรถไปชำแหละจริง เนื่องจากถูกช่างกิตใช้ให้ทำ เป็นการทำตามคำสั่ง แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมช่างกิตจึงใช้ให้นำรถไปชำแหละ

พ่อของนายโอ๊ต ย้ำอีกว่า นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ ลูกชายไม่มีส่วนร่วมใดๆ กับการก่อเหตุกับตัวนายใหม่ เนื่องจากตนเองพยายามถามย้ำแล้ว ลูกชายยืนยันว่าไม่มีการแตะเนื้อต้องตัว รวมถึง กรณีที่มีรายงานว่าช่างกิต ซัดทอดใน 4 คนมีส่วนร่วมในการนำศพไปทิ้งนั้น ลูกชายยืนยันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

พร้อมบอกว่า ตอนนี้ตนเองเครียดมากจากการที่ลูกชายไปมีส่วนร่วมในการทำลายพยานหลักฐานโดยที่ไม่รู้ตัว และอยากถามไปถึงช่างกิตว่า มีปัญหาอะไรทำไมไม่ทำคนเดียว ดึงหลานเข้าไปเกี่ยวข้องทำไม ถ้ารักหลานทำไมจึงทำแบบนี้

โดยพ่อของนายโอ๊ต ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้หลักทรัพย์เท่าไหร่ในการยื่นขอประกัน และตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักทรัพย์ แต่พยายามประสานญาติช่วยกันหามาประกันตัวลูกชาย ซึ่งภายหลังเข้าไปภายในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วงบ่ายพ่อของนายโอ๊ตกลับออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุมัติให้ประกัน เนื่องจากเอกสารยังไม่เรียบร้อย จึงต้องเดินทางกลับไปทำเอกสารก่อน

นอกจากตัวนายโอ๊ตที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว ทีมข่าวสอบถามป้าของนายปานเทพ หรือ “แท็ป” 1 ในผู้ต้องหา ยืนยันว่า ญาติๆ ของ 4 ผู้ต้องหา ยังไม่มีใครได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล เนื่องจากวันนี้เพียงมาถามว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และพอทราบว่ามีเอกสารไม่ครบต่างก็กลับไปเอาเอกสาร

สำหรับแท็ป สิ่งที่ป้ากังวลคือ แท็ปเป็นโรคไต กลัวว่าถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำแล้วจะทำให้อาการไม่ดี ซึ่งก็กังวลว่าจะไม่ได้ประกัน เนื่องจากต้องหาคนมียศมีตำแหน่งมาเซ็นค้ำประกันว่าปล่อยตัวไปแล้วจะไม่หนี ซึ่งคดีใหญ่มองว่ายากในการหา เพราะบอกว่าไม่อยากโทษใคร รวมถึงช่างกิต กรณีที่ที่หลอกแท็ปไปอุ้มตัวนายใหม่ ให้เป็นเรื่องของเวรกรรม เพราะเชื่อว่า เวรกรรมยุติธรรมเสมอ

ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ เชื่อว่าช่างกิตไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุคนเดียว ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดเพิ่มเติม โดยเฉพาะชนวนเหตุที่ทำให้ช่างกิตตัดสินใจลงมือ รวมถึงประเด็นก่อนหน้านี้ที่ช่างกิตให้การไม่ตรงกันในรายละเอียดของเหตุการณ์ โดยเร็วๆ นี้พนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบปากคำช่างกิตเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้นเนื่องจากช่างกิตน่าจะทราบข่าวที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.พร แล้ว โดยเชื่อว่าสภาพจิตใจของช่างกิตตอนนี้น่าจะดีขึ้น และพร้อมพูดสิ่งที่เคยปกปิดไว้ เพราะก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนพบว่าช่างกิตเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในใจแต่ไม่ยอมพูดออกมา

โดยพนักงานสอบสวน  สภ.บางปะกง ได้หารือกับอัยการ เพื่อปรึกษาเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุให้ครบถ้วน เนื่องจากมีพฤติการณ์ก่อเหตุแบ่งเป็นสองช่วง คือช่วงที่อุ้มตัวช่างกิตขึ้นรถและช่วงที่ลงมือฆ่า พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจมีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้บางคนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ส่วนนายโอ๊ตที่เป็นคนนำรถไปชำแหละที่ญาติอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกช่างกิตหลอกมา พล.ต.ต.นเรวิช บอกว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่การทำงานของตำรวจจะต้องดำเนินการตามหลักฐาน และอยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิค ซึ่งตอนนี้มีความคืบหน้า

ส่วนการดึงข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของ น.ส.พร คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ซึ่งพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบข้อมูลว่ามีส่วนใดที่ปกปิดซ่อนเร้น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ โดยยืนยันว่าจากข้อมูลการสอบสวนตอนนี้ น.ส.พร มีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ไม่ได้มีหลายเครื่องตามที่มีกระแสข่าว

พล.ต.ต.นเรวิช ยืนยันอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงว่า น.ส.พร มีส่วนรู้เห็นกับช่างกิตในการวางแผนฆ่านายใหม่ ส่วนที่กระแสสังคมสงสัยว่าข้อความแชทโต้ตอบระหว่างช่างกิต กับ น.ส.พร อาจเป็นการร่วมมือกันทำขึ้นขณะอยู่ด้วยกันเพื่อสร้างหลักฐาน พล.ต.ต.นเรวิช บอกว่า หากจะสร้างหลักฐานก็ต้องสร้างก่อนเกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่าเป็นแบบนั้น โดยจากการสอบปากคำ น.ส.พร เมื่อวานนี้ ได้ความชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับช่างกิต

ส่วนประเด็นชายอีกคนมาหาพรที่บ้านในวันเกิดเหตุ พล.ต.ต.นเรวิช บอกว่า ตำรวจมีข้อมูลนี้ตั้งแต่ต้น แต่ไม่ได้ออกมาพูดเนื่องจากไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วน น.ส.พร จะใช้ประเด็นนี้มากล่าวอ้างได้หรือไม่ ว่าไม่มีส่วนร่วมในการก่อเหตุเพราะอยู่กับชายอีกคน ยืนยันว่า ไม่มีผล เพราะไม่ได้ใช้หลักฐานส่วนนี้มาประกอบสำนวนคดี เนื่องจากมีหลักฐานอื่นๆ ที่ชัดเจนอยู่แล้วในส่วนของการกระทำความผิด

9 ของไหว้มงคล"ตรุษจีน 2568" อาหารคาว-หวาน ผลไม้มีอะไรบ้าง

โปรแกรมฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบ 4 ทีม พร้อมเวลาแข่งขัน

เพื่อนแฉ! "ช่างกิต" ไม่รู้ "น้องพร" มีผัว หลงหนักถึงขั้นมาหากันทุกวัน