20 ก.พ. 67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งชุดเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ติดตามจับกุมตัว นายมอส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.418/2567 ลงวันที่ 30 ม.ค. 67 จับกุมตัวได้ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ถนนลาดพร้าววังหิน
นายมอส เป็นพระเอกละครสั้นสร้างคุณธรรมค่ายดังแห่งหนึ่ง เจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับหลังก่อเหตุ ข่มขู่เหยื่อสาว ว่าจะปล่อยคลิบลับ
บ.ดอยแม่สลอง ออกประกาศหลัง "มอส ละครคุณธรรม" ถูกสืบนครบาลจับกุม
รวบเน็ตไอดอลโฆษณาเว็บพนัน ค่าจ้าง 1,500 บาทต่อ 15 โพสต์
ล่าระทึก! “ใหม่ 29 ยอด” แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเหยื่อสาวส่งไปข่มขืน
จุดเริ่มต้นเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อพระเอกหนุ่มรายนี้เข้าไปตีสนิทกับเหยื่อสาว จนเมื่อความสัมพันธ์เริ่มพัฒนา นายมอสก็เริ่ม ขอยืมเงินหลายครั้ง มากที่สุดครั้งละ 100,000 บาท และจะล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์โดยที่คนร้ายจะถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ตลอด
เมื่อผ่านมาประมาณ 2-3 เดือน คนร้ายเริ่มขอยืมเงินเหยื่ออีก 100,000 บาท แต่เหยื่อสาวไม่ให้ จึงส่งคลิปลับขณะมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อไปข่มขู่ จึงตัดสินใจหอบหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับพระเอกหนุ่มรายนี้ ในชั้นจับกุม นายมอส ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนมีอาชีพเป็นนักแสดงหนังสั้นที่เป็นที่นิยมในโลกโซเชียล มีรสนิยมส่วนตัวชอบถ่ายคลิปกับหญิงสาวที่มีความสัมพันธ์ One Night Stand ไว้ โดยทำมาเป็นร้อยคน โดยจะเก็บข้อมูลไว้ในโทรศัพท์มือถือ”
“ยืนยันว่าที่ถ่ายไว้เยอะ ๆ นั้นเก็บไว้ดูเองไม่ได้เผยแพร่ที่ใด ส่วนคดีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากที่ตนเองมีความสัมพันธ์กับเหยื่อสาวคนดังกล่าวแล้วได้ถ่ายคลิปเอาไว้ โดยที่ฝ่ายหญิงไม่รู้ตัว แล้วต่อมาตนเองได้ยืมเงินหญิงสาวดังกล่าวเป็นจำนวน 50,000 บาท แล้วไม่มีเงินคืน จึงใช้คลิปดังกล่าวขมขู่จะปล่อยคลิปลับ”
หลังจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายมอส ส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ เสริมว่า หากผู้ใดพบเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสมาได้ทาง เพจเฟซบุ๊ค “สืบนครบาล IDMB” ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
บ.ดอยแม่สลอง ออกประกาศหลัง "มอส ละครคุณธรรม" ถูกสืบนครบาลจับกุม
หลายฝ่ายจับพิรุธ หลังรัสเซียไม่คืนร่าง “นาวาลนี"
สามี รับสารภาพใช้หินทุบหัว “น้องนุ่น” นำศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี