คาดแรงหึง! เศรษฐินี-เลขาถูกยิงดับ ตร.ไม่ปักใจเชื่อฆ่าตัวตาย-วางแผนฆ่า

ความคืบหน้ากรณีพบศพเศรษฐีนีเจ้าของโรงหล่อพระ พร้อมเลขานุการคนสนิท ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเช้า วันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในที่เกิดเหตุนอกจากจะพบศพผู้เสียชีวิต และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ยังพบจดหมายสั่งเสีย 2 ฉบับ โดยทั้ง 2 ฉบับ เป็นลายมือของ นางสุ (นามสมมติ) เลขานุการ ของ นางภัทร (นามสมมติ) เศรษฐีนี เจ้าของบ้าน

เร่งคลายปม "เศรษฐีนี" เสียชีวิตปริศนา คาดฆ่าล้างหนี้!

จับแล้ว! คนร้ายฆาตกรรม เศรษฐีนีนามสกุลดัง จันทบุรี

รายการเข้มข่าวค่ำ

ทั้งนี้จดหมายฉบับแรก เขียนเมื่อ 29 ก.พ. ระบุว่า ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ไว้ เพื่อแสดงว่า ถ้าข้าพเจ้าเสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอมอบบ้านและที่ดินให้ลูกสาวของข้าพเจ้าเอง ได้แก่ โฉนดที่ดิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยโฉนดที่ดิน พร้อมบ้าน ยกให้ เด็กหญิง 2 คน แบ่งกันคนละ 50% และให้สามีของข้พเจ้าได้อยู่จนวันตาย แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและบ้าน

ส่วนอีกฉบับ เขียน วันที่ 1 ก.พ. (เข้าใจว่าน่าจะใส่เดือนผิด) ระบุว่า ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

อย่างไรก็ตามสภาพในบ้าน ตอนที่ไปเจอศพ คนไปเจอคนแรก คือ ลูกชายของนางภัทร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน จึงขับรถมาดู ตอนเจอศพอยู่ในสภาพขึ้นอืด ศพของนางภัทร สวมชุดชั้นในและนอนห่มผ้า ถูกยิงที่หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตมาราว 7 วัน ส่วนเลขาสภาพศพสวมชุดนอน ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด ใกล้กับศพพบ อาวุธปืนกล็อค 19 ขนาด 9 มม. ยังมีกระสุนในรังเพลิง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน และในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือ รื้อค้นสิ่งของ

โดยลูกสะใภ้ของนางภัทร ให้ข้อมูลว่าแม่สามี แยกออกมาใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย โดยมีเลขาคือนางสุ คอยดูแลขับรถให้ ซึ่งแม่จะมีนิสัยชอบปิดมือถือ หรือติดต่อไม่ได้ครั้งละหลายวัน โดยครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ คือ วันที่ 1 มี.ค.แม่ติดต่อมาว่าจะไปหายายที่ จ.ชุมพร จากนั้นก็ติดต่อแม่ไม่ได้อีก ทุกคนไม่ได้เอะใจเพราะเป็นเรื่องปกติ จนผ่านไปหลายวันพบว่าแม่ยังไม่ได้เดินทางไปชุมพร และไม่มีการติดต่อญาต จึงตามมาดูที่บ้านพักที่หัวหิน ก็พบว่าแม่ถูกยิงเสียชีวิต

รายการเข้มข่าวค่ำ

ด้าน พ.ต.อ. กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน บอกว่า ให้คนใกล้ชิดนางสุเอาเอกสารที่มีลายมือมาตรวจสอบ แต่เท่าที่ดูเบื้องต้นพบว่า มีความคล้ายกันมาก ส่วนเรื่องเนื้อหาในจดหมาย ก็สอดคล้องกับการตั้งประเด็นการก่อเหตุของตำรวจ เรื่องอุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย

นอกจากนั้นนับจากวันที่ 29 ก.พ. ไม่พบความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 คน ออกจากบ้านเลย ประกอบกับได้คุยเบื้องต้นกับเพื่อนของนางสุ บอกว่า ทั้งนางสุ และนางภัทร เป็นผู้หญิงที่สนิทกันเกินเพื่อน มูลเหตุจริงๆ น่าเป็นเรื่องของความรัก ความหึงหวง เพราะ ก่อนหน้านี้ นางสุ มีการโพสต์เฟชบุ๊กตัดพ้อ หมดใจ

ส่วนประเด็นปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ตำรวจส่งไปตรวจสอบกับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้ว ต้องรอผลการตรวจก่อน เบื้องต้นพบว่า ปืนดังกล่าวเป็นของนางสุ (เลขา) ซื้อมาเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน มีใบอนุญาต ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ส่งไปตรวจสอบว่าเป็นปลอกกระสุนปืนจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. กัมปนาท  ย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะอาจไม่ใช่ปืนลั่นแต่เป็นการเตรียมการไว้ก็ได้  ขอรอตรวจสอบก่อน

ทั้งนี้ทีมข่าวสอบถามข้อมูลจากกลุ่มเพื่อนของนางสุภัทราเพิ่มเติม พบว่า นางสุ(เลขา) มักมีท่าทีหึงหวง นางภัทร หลายครั้ง เช่น เวลามีการสังสรรค์กินเลี้ยง ซึ่งนางภัทรเป็นคนชอบสังสรรค์ อย่างช่วงเดือนที่แล้วมีการจัดงานวัดเกิดและมีเพื่อนชายชาวต่างชาติ สั่งดอกไม้ช่อใหญ่มาเซอร์ไพร์ ปรากฎว่า นางสุ (เลขา) ชักสีหน้า และแสดงท่าทีหึงหวงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเพื่อนๆ ในกลุ่ม ระบุว่าไม่แน่ใจความถึงความสัมพันธ์ดังกล่าว เพราะทราบว่า นางสุ ก็มีลูกมีสามี อยู่แล้ว

เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

สรุปผล Oscar 2024 “คิลเลียน เมอร์ฟี - เอมมา สโตน” ซิวนักแสดงนำ หนัง “Oppenheimer” กวาด 7 รางวัล

บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.