จับแล้ว “นาย” มือฆ่าสาวเมียนมา ทิ้งศพบ่อร้างกลางเมืองนครฯ

จากกรณีฆ่าสาวเมียนมาทิ้งบ่อร้างกลางเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งหลังพบเบาะแสตำรวจได้มีการออกหมายจับ นายพิทญา หรือนาย บุญญัติศักดิ์ อายุ 27 ปีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่า นางสาวสา สาวเมียนมา ดาว Tiktok 

กระทั่งล่าสุด เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา  พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช  นำกำลังเข้าพื้นที่ บ้านญาติของนายพิทญา  ที่ ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช  รอยต่อระหว่าง ตำบลพุดินนา อำเภอลำทับ จ.กระบี่ 

“สาวเมียนมา” ดาว tiktok ถูกแฟนเก่าชาวไทยฆ่าโหดทิ้งบ่อร้างในวัด

ศาลอนุมัติหมายจับ มือฆ่า “น้องสา”สาวเมียนมา หมกบ่อร้างในวัด

รายการเข้มข่าวค่ำ

ทั้งนี้หลังสืบทราบว่านายพิทญา หรือ “นาย”  ผู้ต้องหาตามหมายจับ รายนี้หลบหนีมากบดานในพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนาย และนำตัวผู้ต้องหาเดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อสอบปากคำ

โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่าลงมือฆ่านางสาวสาจริงและกระทำเพียงคนเดียว ไม่ได้เตรียมการมาก่อน ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง ขณะเดียวัน ได้พูดสั้นๆบอกว่า อยากขอโทษและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว ได้แต่นั่งก้มหน้าคอตก ส่ายหน้า

ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบปากคำนั้น ได้มีญาติ เพื่อนร่วมงาน และนายจ้าง ของนางสาวสาได้ตะโกนด่าทอ อย่างต่อเนื่อง และไม่เชื่อว่านายลงมือฆ่านางสาวสาเพราะหึงหวง เนื่องจากเลิกรากันไป 2 ปีแล้ว คาดน่าจะเป็นเรื่องชิงทรัพย์มากกว่า

อย่างไรก็ตามหลังผลชันสูตรศพ นางสาวสา เบื้องต้น พบว่ามีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณต้นคอ 1 แผล หน้าอก 2 แผล และปากฉีกขาด นอกจากนี้มีข้อมูลจากเพื่อนสนิทของนางสาวสาคนหนึ่งระบุว่า มูลเหตุที่ทำให้นายนายฆ่านางสาวสา น่าจะมาจากการทวงเงินคืน เนื่องจากในช่วงเวลาที่นายนายคบหากับนางสาวสา ได้หยิบยืมเงินไปนับแสนบาท และเชื่อว่าในวันเกิดเหตุนางสาวสาน่าจะไปทวงเงินจากนายนาย ทำให้ไม่พอใจ ก่อนทำร้ายจนเสียชีวิต

ขณะที่แม่ของนาย ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมติดพนันออนไลน์

เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดนตัดสิทธิฯ 10 ปี หลังยุบพรรค

ไฟไหม้ตลาดสี่มุมเมือง “เด็ก 4 ขวบพร้อมน้า” สำลักควันเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1

เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก