เหตุการณ์ชายคุ้มคลั่งยิงรองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม เสียชีวิต และต่อมาพบว่าผู้ก่อเหตุเสียชีวิตอยู่บนชั้นลอยของบ้าน ล่าสุดเช้านี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ลงพื้นที่ด้วย ระบุว่า สาเหตุที่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตยังระบุไม่ได้ แต่ให้น้ำหนักว่าจบชีวิตตัวเองหลับก่อเหตุ
ที่เกิดเหตุเช้านี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บหลักฐานในบ้านผู้ก่อเหตุ ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ลงพื้นที่เกิดเหตุด้วย
เบื้องต้นให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ระบุถึง พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม ที่เข้าระงับเหตุเมื่อคืน
ซึ่ง พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์เสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่ ส่วนนี้ยืนยันว่าจะดูแลเรื่องสวัสดิการและผลประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยมีสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ที่จะเข้ามาดูแล
เหตุการณ์ที่เมื่อคืนนี้ พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์ ได้เดินทางมาระงับเหตุด้วยตนเอง พร้อมกับ ดาบตำรวจไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม ซึ่งครั้งแรกที่เดินทางมาถึง พบว่า นายบุญมา หรือเฮียตุ้ง ผู้ก่อเหตุและลูก 2 คน อยู่ภายในบ้าน ญาติได้ร้องขอให้ช่วย ซึ่งตำรวจได้พยายามเข้าไปในบ้านเพื่อเข้าประกบตัวผู้ก่อเหตุ แต่ระหว่างนั้นลูกของผู้ก่อเหตุได้วิ่งสวนออกมาทางประตูด้านหน้า ทำให้ตำรวจถูกกระสุนปืนยิงใส่ แต่ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจยิงหรือไม่
สำหรับ พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์ อายุ 59 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2568 จากข้อมูลพบว่าเจ้าตัวเป็นคนขยันทำงาน และมักเข้าระงับเหตุสำคัญด้วยตนเองมาโดยตลอด สำหรับร่างของ พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์ ในวันนี้เจ้าหน้าที่นิติเวชจะชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยาวสุทธารามต่อไป
ส่วนตอนนี้ตำรวจได้สอบปากคำไปแล้ว 6 ปาก ประกอบด้วย ภรรยาผู้เสียชีวิต และลูกของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน พบว่า ทั้งหมดอยู่ในอาการเครียด ส่วนสาเหตุที่ตำรวจให้น้ำหนักเสียชีวิตของนายบุญมาไปที่การจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากเมื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเลือดในที่เกิดเหตุแห้งแล้ว ขณะเดียวกันมีรายงานว่าร่างของเฮียตุ้ง อยู่ในสภาพนั่งห้อยขาที่เตียงนอนบริเวณชั้นลอย ลักษณะท่าคือล้มเอียงไปทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับปืนไม่ทราบชนิดของผู้ตายตกอยู่ ตรวจสอบทางร่างกายพบกระสุนปืนที่บริเวณขมับด้านขวาของผู้ตาย แต่ความชัดเจนต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชต่อไป
ทั้งนี้ ลูกสาวของผู้ก่อเหตุทั้ง 5 ยังไม่พร้อมที่จะให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ เนื่องจากว่า เนื่องจากต้องการจัดการเรื่องของพ่อให้เสร็จก่อน แต่ได้ชี้แจง กรณีที่มีการนำเสนอ ข่าวว่า "ลูกคนเล็ก" ของผู้ก่อเหตุ วิ่งสวนออกมา ทำให้พันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ เสียหลักพลาดโดนยิง แต่ข้อเท็จผู้ก่อเหตุยิงรองผู้กำกับแล้ว ลูกสาวคนรองที่อยู่ตรงประตูก็ยังหลบ และได้เข้าไปดึงน้อง และวิ่งออกมาพร้อมกัน ไม่ใช่การวิ่งสวนออกมาหรือไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ หลักฐานเห็นได้คลิปที่เผยแพร่กัน