จากกรณีวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ระทึกเมื่อ นายกฤษณะ ศรีสวัสดิ์ อายุ 28 ปี เสพยาบ้าคุ้มคลั่งอาละวาด พยายามจะบุกเข้าไปข่มขืนพี่สาวภายในบ้าน จนผู้เป็นแม่แจ้งให้ตำรวจ สภ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ให้มาช่วยระงับเหตุ แต่นายกฤษณะไม่ยอมวางอาวุธมีดและมอบตัว แต่กลับใช้มีดฟันสู้ ตำรวจใช้กระสุนยางยิงแต่นายกฤษณะไม่หยุด ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสกัด 1 นัด กระสุนลูกปราย 6 นัดเข้าทรวงอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ประกาศฉบับที่ 1 พายุ“ดีเปรสชัน” รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก
เปิดใจ 2 นักบินอวกาศนาซา หลังต้องติดอยู่ในอวกาศ 8 เดือน
วิเคราะห์ฟุตซอลโลก 2024 ทีมชาติไทย พบ คิวบา 17 ก.ย.67
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางประครอง สีแดงฮอวน อายุ 57 ปี แม่ของนายกฤษณะ โดยเล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง แยกทางกับสามีตั้งแต่ลูกทั้ง 3 คนยังเด็ก โดยลูกคนโตและคนกลางเป็นผู้หญิง ส่วนคนเล็กเป็นผู้ชายคือนายกฤษณะ ซึ่งจะมีนิสัยเกเรเสพติดยาบ้าตั้งแต่อายุ 18 ปี และเคยก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกจับติดคุก 8 ปี ซึ่งพึ่งพ้นโทษออกมา 2-3 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาก็ไม่ยอมทำงาน จะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และหันมาเสพยาบ้าหนัก พอเมาได้ที่ก็จะอาละวาด และเคยก่อเหตุจะข่มขืนพี่สาวด้วย แถมยังมีพฤติกรรมชอบลับมีดคมๆ แล้วนำมาถือ จนทำให้ตนกลัวต้องไปขอนอนบ้านญาติพี่น้อง
นางประครอง บอกอีกว่า ในวันเกิดเหตุ นายกฤษณะเสพยาบ้า 18 เม็ด แล้วอาละวาดหนัก ถือมีดยาวประมาณ 50 ซม.ใช้ก้อนหินขว้างปาบ้านพี่สาวซึ่งอยู่ใกล้กัน และขว้างปาก้อนหินใส่ชาวบ้านผ่านไปมา และจะเข้าไปข่มขืนพี่สาวในบ้าน แต่พี่สาวปิดประตูบ้านได้ทัน ตนเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย จึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน พบนายกฤษณะถือมีดหลบอยู่บนบ้าน ตำรวจเจรจาให้วางอาวุธและลงมามอบตัว แต่นายกฤษณะไม่ยอมมอบตัว และสู้ตำรวจ จึงถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม นางประครอง บอกว่า ตั้งแต่ลูกชายพ้นโทษออกมา ตนไม่ได้นอนบ้านเลย เพราะกลัวลูก แต่ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกชายเสียชีวิต แต่ตนก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และไม่คิดว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ไม่ติดใจการเสียชีวิต โดยหลังจากนี้จะไปรับศพลูกมาประกอบพิธีทางศาสนา และอยากบอกดวงวิญญาณลูกชายว่า ให้ไปดีสมสุข ไปเกิดที่ร่ำรวย ไม่สูบยาบ้าอีก
ด้าน พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้นำกำลังสายตรวจและสืบสวนประมาณ 10 กว่านาย และไม้ง่ามออกไประงับเหตุ เพราะนายกฤษณะมีประวัติข่มขืน และเสพยาบ้าอาละวาด เคยก่อเหตุพยายามจะข่มขืนพี่สาวทั้งสองคน เมื่อไปถึงก็ใช้ยุทธวิธีตำรวจตามขั้นตอน
โดยครั้งแรกใช้การเจรจาก่อน ตั้งแต่ 16.40 น. ก็ไม่ยอมวางอาวุธและมอบตัว จึงใช้สเปรย์พริกไทยฉีดเข้าไปในห้อง ก็ยังไม่ยอมมอบตัวอีก จนมืดค่ำตำรวจจึงตัดสินใจปีนบันไดขึ้นไป พอตำรวจโผล่ขึ้นไปนายกฤษณะได้ใช้มีดฟัน ตำรวจจึงใช้ไม้ง่ามรับเอาไว้ ครั้งแรกตำรวจใช้กระสุนยางยิงสกัด แต่กระสุนยางเอานายกฤษณะไม่อยู่ ยังถือมีดวิ่งเข้าใส่ตำรวจ จึงตัดสินใจยิงด้วยกระสุนจริง โดนหน้าอกล้มลง
หลังจากนั้นตำรวจรีบนำตัวส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการชันสูตรพบกระสุนลูกปรายทะลุหัวใจ 1 นัด ส่วนแม่และญาติไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต เพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย