พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดในคดีนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ “สจ.โต้ง” ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ “โกทร” นายก อบจ.ปราจีนบุรี นั้นว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าคดีเป็นอย่างมาก ในบางประเด็นได้มีความกระจ่างชัดเจน และอยู่ในระหว่างเรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่เหลือมาสอบปากคำให้ครบประเด็น ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่าละเว้นบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่เรียกสอบปากคำ แต่ขอให้เชื่อมันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในบ้านนั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่าไปฟังข่าวลวงหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี ใครจะหิวแสงจินตนาการอย่างไรอย่าหลงเชื่อ ขอให้ยึดมั่นในพยานหลักฐานที่แท้จริง
ทั้งนี้การทำคดีนี้ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวล จากประสบการณ์เมื่อเข้าไปเห็นหลักฐานต่างๆ และข้อมูลจากพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบได้เลยว่า ไม่ใช่เป็นการบันดาลโทสะ แต่เป็นการวางแผนมาแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ โดยได้สั่งการให้ทีมกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปกู้ข้อมูลโดยใช้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์แล้ว
หลังจากนี้ คดีฆ่า “สจ.โต้ง” จะให้ทางกองบังคับการปราบปรามทำเรื่องขอเสนอผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงสะเทือนขวัญแล้วเป็นคดีสำคัญ อีกทั้งผู้ร่วมก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะมีประชุมอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า
ด้าน พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ที่ นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ “สจ.จอย” ภรรยาของ “สจ.โต้ง” ได้ยื่นเอกสารขอให้โอนสำนวนคดีการตายของสามีมาที่กองบังคับการปราบปรามเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ภายหลังรับเรื่อง ตำรวจสอบสวนกลางได้รายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทราบมาว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยืนยันจะมีความชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางได้จัดชุดทำคดีนี้ไว้แล้วโดยมอบหมายให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเอกสารที่ สจ.จอย ยื่นมานั้น เข้าหลักเกณฑ์ที่ตำรวจสอบสวนกลางกำหนดไว้ เพราะเป็นคดีที่มีความซับซ้อน ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่