จากกรณีที่มีรายงานการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ “อดีตผู้กำกับโจ้” ผู้ต้องขังคดีก่อเหตุบังคับ ขู่เข็ญ และทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังเรือนจำเมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานั้น ได้มีการเผยแพร่หนังสือร้องเรียน ส่งถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยอ้างว่าเป็นของแม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568
โดยเนื้อความในหนังสือร้องเรียน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมรายหนึ่งมีการใช้ความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และสิทธิขั้นพื้นฐานของนักโทษอย่างร้ายแรง ขอร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ยังเขียนบรรยายพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ประมาณเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567 และ เดือนมกราคม 2568
สำหรับเหตุการณ์ประมาณเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567 เริ่มต้นจากนักโทษรายหนึ่งพูดใส่ร้ายอดีตผู้กำกับโจ้ ทำให้ผู้คุมหลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีและต่อว่าอดีตผู้กำกับโจ้ และผู้ต้องขังคนดังกล่าวยังขู่ทำร้ายร่างกายอดีตผู้กำกับโจ้หลายครั้ง ซึ่งอดีตผู้กำกับโจ้คาดว่า สาเหตุเป็นเพราะตนเคยขอร้องให้ไปสูบบุหรี่ไกลจากพื้นที่ห้องนอนตนเอง
ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมคนดังกล่าว เริ่มมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งอดีตผู้กำกับโจ้ เช่น เรียกเข้าไปด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงภายในห้องส่วนตัว รื้อค้นสิ่งของส่วนตัว เช่น เอกสารสำคัญทางคดี โดยยึดเอกสารสำคัญทางคดี ซึ่งอดีตผู้กำกับโจ้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการขึ้นศาล พร้อมอ้างว่านักโทษไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องนำออกไปจากเรือนจำ แต่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ระบุว่า นักโทษสามารถเก็บรักษาเอกสารทางคดีไว้กับตนเองได้ และอื่น ๆ
จากเหตุการณ์ทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของอดีตผู้กำกับโจ้ ทำให้สุขภาพทรุดหนัก มีอาการตัวสั่น โรคหัวใจกำเริบ ต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลจนแพทย์ต้องปรับยารักษาให้แรงขึ้น
ส่วนเหตุการณ์เดือนมกราคม 2568 เริ่มจากวันที่ 8 มกราคม 2568 อดีตผู้กำกับโจ้พบว่าผู้ต้องขังคนเดิม เล่นเกมและดูสื่ออนาจาร ผิดระเบียบเรือนจำ จึงบอกกล่าวว่า การกระทำนี้มีความผิด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมคนดังกล่าวด่าทอ และต่อย ผลัก จนเกิดรอยช้ำขนาดใหญ่ และต่อมาวันที่ 10 มกราคม 2568 ผู้ควบคุมคนดังกล่าวตั้งข้อกล่าวหาว่าอดีตผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และให้นักโทษในความดูแลของตนเองเป็นพยานยืนยัน อดีตผู้กำกับโจ้จึงถูกย้ายไปยังแดน 5 และถูกขังในซอย
เนื้อหาระบุเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่กล่าวมาในจดหมาย เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น และยังทราบว่า ผู้คุมคนดังกล่าวมีพฤติกรรมกันแกล้งและกดดันนักโทษคนอื่นด้วย จึงขอร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คุมคนนี้อย่างละเอียด และดำเนินการทางวินัยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง
นอกจากนี้ ยังขอให้นำตัวอดีตผู้กำกับโจ้ออกจากการคุมขังพิเศษที่แดน 5 โดยเร็ว ขอให้แยกผู้คุมคู่กรณีออกจากพื้นที่ใกล้ชิดกับอดีตผู้กำกับโจ้ เพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัย และขอให้อดีตผู้กำกับโจ้ได้รับการคุมขังในพื้นที่ปลอดภัย โดยต้องเป็นแดนที่ไม่เสี่ยงอันตรายจากการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งครอบครัวรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก และเกรงว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ท้ายเอกสาร มีการแนบใบรับรองแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแพทย์ได้ระบุผลการตรวจร่างกายของอดีตผู้กำกับโจ้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงซ้าย จากการกระแทกของแข็งไม่มีคม และพบแผลฟกช้ำเป็นวงเรียงต่อกันเป็นแนว ใต้ราวนมซ้าย ซึ่งเกิดจากการที่ผู้คุมคนดังกล่าว ใช้กำปั้นชกอดีตผู้กำกับโจ้ จำนวน 2 ครั้ง รวมถึงยังมีเอกสารที่ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายไว้ที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ด้วย