รวบชายจีนฆ่าสาว LGBT หมกห้องเช่า อ้างกรีดร่างศพเพราะ “อยากแกล้ง”

ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมโหดภายในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยอรุโณทัย พัทยากลาง

ที่เกิดเหตุบริเวณห้อง 201 ชั้น 2 ของอาคาร พบศพสาว LGBT ทราบชื่อต่อมาคือ นายวรนันท์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งได้แปลงเพศแล้ว เสียชีวิตในสภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ มีบาดแผลถูกของมีคมกรีดกลางหน้าอก ลึกจนเห็นอวัยวะภายใน หัวใจถูกควักออกมาวางอยู่ข้างร่าง ปอดด้านหนึ่งหายไปจากที่เกิดเหตุ หน้าอกโดนเฉือนทั้ง 2 ข้าง

รายการทันข่าวสุดสัปดาห์

สอบสวน คนเช่าด้วยกัน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. คืนวันที่ 25 เม.ย. ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทภายในห้องดังกล่าว จากนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมเสียงทุบทำลายสิ่งของ ก่อนเสียงเงียบไป พอเช้าวันที่ 26 เม.ย. ก็เห็นมีการแจ้งกันว่า มีหญิงสาว LGBT เสียชีวิตแล้ว

คนเช่าอะพาร์ตเมนต์ ให้ข้อมูลว่า "ผู้หญิงเหมือนกับว่า ปล่อย อย่าทำ ตะโกนอยู่ ตอนแรกก็นึกว่า คนเดินถนน /แต่ว่าไม่ใช่ ได้ยินเสียงเหมือนเขาร้องไกล ๆ แล้วเสียงเหมือนกระทบพื้น  พี่ก็ตื่นมา ก็มองนาฬิกาว่ามันตี 2 กว่าแล้ว เพื่อนเขาก็นอนอีกเตียง แต่เราก็ไม่ได้คุยกันว่า เออ เหมือนคนทะเลาะกัน คือเรานอนฟังว่ามันจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น"

ผู้เช่ารายนี้เสริมว่า "เราไม่ได้ขึ้นไปดูเพราะเรากลัว ห้องเขาอยู่ตรงนี้ แล้วห้องเรานอน มันตรงกันเลยไงแล้วมันดึกมากมันก็ชัด เสียงเหมือนถีบประตู หรือ เดินลงส้น แล้วก็ถีบประตู ปัง ปัง จะออก ไม่รู้ว่าประตูทางออกหรือห้องน้ำ เราไม่รู้"

ขณะที่ผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ เปิดเผยว่า ผู้เช่าห้องคือ ถงหยวน ฟู่ (Mr. Tongyung Fu) อายุ 42 ปี ชาวจีน เดินทางมาเช่าห้องพักเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยขอเช่าพักเป็นเวลา 1 สัปดาห์ 

และจากการตรวจสอบ ภาพวงจรปิดที่อะพาร์ตเมนต์ จับภาพเวลาประมาณ 22.14 น. ผู้ต้องสงสัยเดินลงมาจากห้องมารับผู้เสียชีวิต และเวลา 22.15 น. ผู้ต้องสงสัยเดินออกมาด้านหลังมารับผู้เสียชีวิต จากนั้นก็พาผู้เสียชีวิตขึ้นไปบนห้อง

จากนั้นเวลาประมาณ 07.00 น. ชายชาวจีนต้องสงสัย สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาว สะพานกระเป๋าเป้สีดำ โดยในมือถือถุงพลาสติก 1 ใบ เดินออกจากอะพาร์ตเมนต์ด้านหลัง (ซอยอรุโณทัย 4)

โดยศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายถงหยวน ฟู่ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายตงหยวน ฟู่ ได้แล้ว ขณะเตรียมตัวเดินทางออกนอกประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จากนั้นตำรวจได้นำตัว นายถงหยวน ฟู่  ไปที่สำนักงานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี เพื่อตรวจหาเนื้อเยื้อรวมถึงดีเอ็นเอ เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี  ก่อนจะคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อเวลา 21.55 น. โดยนายถงหยวน ฟู่ มีสีหน้าเคร่งเครียด  และก้มหน้าตลอดเวลา

นายถงหยวน ฟู่ ให้การยอมรับสารภาพ ผ่านล่ามประจำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรีว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 เม.ย. ได้ไปเจอผู้ตายที่ย่านชายหาดพัทยาใต้ และมีการแลกรายชื่อติดต่อกันฝในแอปพลิเคชัน โดยยืนยันว่า ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นสาว LGBT และคิดว่าเป็นผู้หญิงจริง ๆ จนกระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ ของวันเดียวกัน ผู้ตายก็ติดต่อเข้ามาหา

ก่อนจะนัดเจอกันที่ห้องเช่าของตนเองและตกลงราคาซื้อบริการที่ 8,000 บาท จึงยอมจ่ายเงินไป แต่พอถึงเวลาผู้ตายกลับไม่ยอมและเกิดขัดขืน ตนเองจึงขอเงินคืนครึ่งหนึ่ง แต่ผู้ตายไม่ยอม จึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และเกิดการต่อสู้กัน จนเกิดบาดแผลขึ้นตามใบหน้า แถมยังถูกผู้ตายถีบตกเตียง พอลุกขึ้นได้ ตนเองก็กระโดดขึ้นมาบนเตียง แล้วนั่งคร่อมผู้ตายก็จะบีบคอจนแน่นิ่งไป

ก่อนจะลากร่างของผู้ตายเข้าในห้องน้ำ แล้วใช้กรรไกรที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ กรีดศพ เพราะอยากจะ “เล่น และ แกล้ง”

ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันว่า ไม่ได้แตะต้อง ซึ่งหลังลงมือเสร็จ ก็ทำการล้างศพ และ ชำระล้างคราบเลือดทั้งหมด ก่อนจะทิ้งศพไว้ในห้องน้ำ แล้วกลับไปนอนตามปกติ พอตื่นมาก็รีบจองตั๋วเครื่องบิน นั่งวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง มานั่งรถบัสโดยสาร เดินทางมาสนามบินสนามสุวรรณภูมิ เพื่อหนีกลับประเทศจีน

ผู้สื่อข่าวพยายามถึงแรงเหตุจูงใจของการก่อเหตุสังหารโหดในครั้งนี้ เป็นเพราะ นายถงหยวน ฟู่ ป่วยหรือมีอาการทางจิตหรือ หรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่เคยไปหาหมอ” แล้วยังยืนยันว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะถูกผู้ตายทำร้าย จนเกิดอาการโมโหสุดขีด ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งอยากขอโทษครอบครัวของผู้ตายในสิ่งที่ทำลงไป 

นายถงหยวน ฟู่  ให้การอีกว่า ตอนอยู่ที่ประเทศจีน มีอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็ก มาเที่ยวประเทศไทย 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรกที่มาประเทศไทยมาพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ แต่ครั้งที่ 2-3 เดินทางมาเอง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย

ตำรวจมีการสอบปากคำ ในเรื่องของ อุปกรณ์ที่ไปซื้อ ที่ผู้ต้องหาไปซื้อ ที่ร้านขายของทุกอย่าง 20 บาท ผู้ต้องหา ได้ไปซื้อก่อนที่จะมีการนัดเจอผู้ตายที่ห้องพัก โดยอ้างว่าจะซื้อเพื่อใส่สิ่งของ และ สัมภาระ เพราะไม่มีกระเป๋าเดินทาง ส่วนกรรไกรที่ซื้อมา อ้างว่าใช้ไว้ป้องกันตัวเวลาออกไปเที่ยวกลางคืน นอกจากนี้ ผู้ต้องหายินดีที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ