“มหกรรมหนังสือระดับชาติ 2565” รวมทุกอย่างที่ต้องรู้ ก่อนไปงาน ที่นี่!

เป็นข่าวดีสำหรับนักอ่านที่กำลังตั้งตารอคอยจะไป “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27” หลังจากปีที่ผ่านมาต้องจัดงานแบบกึ่งจริงกึ่งทิพย์ แถมปีนี้ยังพิเศษตรงนี้งานนี้จะได้กลับมาจัดในสถานที่เดิมอีกครั้ง เพราะศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ปิดปรับปรุงไปเมื่อปี 2562

ใครที่กำลังคิดถึงบรรยากาศการเดินงานหนังสือ ที่จะได้ไปสัมผัสผิวของหนังสือก่อนซื้อ มหกรรมนี้ถือว่าไม่ควรพลาด โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคม - 23 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ภายใต้คอนเซปต์ “BOOKTOPIA : มหานครนักอ่าน เพราะการอ่านคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมือง”

แต่การอ่านจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองได้อย่างไรนั้น รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวโควทเด็ดออกมาภายในงานเปิดตัวมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ว่า 

ประเทศที่มีพลเมืองมีนิสัยรักการอ่าน จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อการพัฒนาบ้านเมืองให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมการอ่านถึงสำคัญ และผู้ว่าฯผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีนี้ยังกล่าวอีกว่า การที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ยังคงจัดงานหนังสืออย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ถือเป็นการสร้างและส่งเสริมให้เกิดการอ่านอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้นักอ่านทุกเพศทุกวัยได้มาแสวงหาหนังสือที่ดีและถูกใจภายในงานเดียว

นอกจากนี้ นางสาวทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า งานมหกรรมนี้ยังจัดขึ้นเพื่อให้เหล่านักอ่านได้มาค้นพบแรงบันดาลใจจากการอ่านสู่การสร้างสรรค์ พัฒนาตัวตน ชุมชน จนยิ่งใหญ่ระดับเมืองได้

ที่สำคัญยังเป็นการต้อนรับการกลับมาของงานหนังสือสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง 

ผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สำนักพิมพ์ต่าง ๆ ต้องปรับตัวสู่การจำหน่ายหนังสือบนโลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจให้คงอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มออนไลน์อาจยังไม่ตอบโจทย์สำนักพิมพ์ในด้านของยอดขายและไม่สามารถมอบประสบการณ์ให้นักอ่านได้อย่างเต็มที่เหมือนดังเช่นงานรูปแบบออนกราวน์ การได้กลับมาจัดงานหนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง เสมือนการได้เดินทางกลับบ้าน เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยและสร้างความทรงจำมากมายให้กับนักอ่าน

สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปงานหนังสือนี้ ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้รวบรวมทุกคำถามคำตอบที่ควรรู้มาให้ดังนี้

 

โซนหนังสือ

ภายในงานหนังสือ จะมีอะไรให้เราได้เลือกชมหรือเลือกซื้อได้บ้าง แบ่งออกเป็น 6 โซน ดังนี้

• หนังสือเด็กและการศึกษา
• หนังสือทั่วไป
• หนังสือเก่า
• หนังสือประวัติศาสตร์และการเมือง
• หนังสือนิยายและวรรณกรรม
• หนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น

ตรวจสอบรายชื่อสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วมงาน : คลิกที่นี่

โซนกิจกรรม

นอกจากจะมีโซนหนังสือ เป็นพื้นที่สำคัญที่นักอ่านสนใจแล้ว ยังมีโซนกิจกรรมต่าง ๆ ให้เราได้ไปลองร่วมสนุกกัน ได้แก่

• บริเวณแลนด์มาร์ก (Landmark)

เป็นพื้นที่ตรงกลางของการจัดงาน พิกัดแรกที่น่าสนใจอยู่ตรงบูธ H26 เป็นจุดสำคัญของการถ่ายรูปและเช็กอิน สามารถมองภาพของงานในมุมมองของ Bird Eyes View แบบ 360 องศา คล้ายการได้เฝ้ามองเมืองหนังสือจำลอง

ในโซนเดียวกันยังมี ถนนห้องสมุด (Reading Road) อยู่ตรงบูธ F27 เป็นถนนสายพิเศษที่ตกแต่งด้วยรายชื่อนักเขียน ชื่อหนังสือ
และบางประโยคประทับใจจากหนังสือ แถมยังจะได้พบปะสังสรรค์ พูดคุย และกระทบไหล่นักเขียนที่ชื่นชอบ

ถัดออกมาก็จะเจอ ถนนนักอ่าน (Reader Road) ตรงบูธ I28 เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเขียนความในใจใส่ซองจดหมายติดไว้บนกำแพงในบูธ Book Blind Date แลกเปลี่ยนหนังสือ โดยห่อหนังสือและเขียนแค่คำโปรย หรือจัดลิสต์หนังสือตามหัวข้อและอารมณ์ที่พร้อมจะส่งต่อให้นักอ่านคนอื่น ๆ ได้ตามมาอ่านกัน

• บริเวณเวทีกลาง

จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจใหม่ๆ ให้ได้มาลองกันทุกวัน อาทิ

12 ต.ค. 2565 : ทักษิณ ชินวัตร Thought and Theory โดย ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล, นายแพทย์พรหมินท์ เลิศสุริย์เดช และธีรัตถ์ รัตนเสวี

18 ต.ค. 2565 : เปิดตัวหนังสือใหม่ อาทิ นักสู้ อานันท์ โดย อานันท์​ ปันยารชุน และวิทยา​ เวชชาชีวะ

20 ต.ค. 2565 : “ปรับ” เมื่อโลก “เปลี่ยน” กับบทเรียนจากเศรษฐกิจโลกหมื่นปี โดย ผศ.ดร.ธร ปีติดล 

23 ต.ค. 2565 : เสวนาหนังสือ “INTO THE METAVERSE” โดย ท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง bitkub 

อีกทั้งยังมีกิจกรรมเสวนาจากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่เอาใจครอบครัวและเด็ก ๆ รวมทั้งความบันเทิงมากมายจากกิจกรรมของ BNK 48, CGM 48 และการเปิดตัวซีรีย์เรื่องใหม่จากผู้จัดและนักแสดงวัยรุ่น เป็นต้น

• นิทรรศการ Booktopia เมืองในฝันของนักอ่าน

ตั้งอยู่ด้านหน้าระหว่างฮอลล์ 6-7 เป็นพื้นที่ที่จะเชิญชวนนักอ่านมาร่วมแชร์ แบ่งปัน และเติมเต็มไอเดียภาพเมืองในฝัน แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบได้ผลักดันให้เป็นนโยบายสาธารณะที่นำไปสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง

• กิจกรรม Live-Brary

กิจกรรมนี้จัดอยู่บริเวณบูธ A01 เป็นพื้นที่ที่จะรวบรวมหนังสือมนุษย์ (Human Book) กว่า 10 เล่มภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิต (ชีวา) ในวงการหนังสือ” มาให้นักอ่านได้อ่านผ่านการคุยกันแบบสบาย ๆ สไตล์ Book Club กับนักเขียน อาทิ ปราปต์ ผู้เขียนกาหลมหรทึกและคาธ เพื่อสร้างความเข้าอกเข้าใจ ก้าวข้ามอคติของมนุษย์ที่มีต่อกันในความแตกต่างทุกๆ ด้าน พร้อมจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปวาดภาพและเรียนรู้การออกแบบปกหนังสือ โดยเพจ pigabook ต้อนรับเดือนแห่งความหลอนกับเทศกาลฮาโลวีน

• มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตาตื่น

เชิญชวนนักอ่านมาร่วมบริจาคหนังสือให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน ชุมชน ห้องสมุด ผู้สูงวัย และผู้พิการในพื้นที่ขาดแคลน ได้ที่บูธ A26

• Drawing Story

นิทรรศการพื้นที่บูธ K41 เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานที่รังสรรค์โดยศิลปินนักวาดชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นนักวาดหนังสือการ์ตูน นักวาดภาพปกและภาพประกอบ หรือนักเขียนนิยายภาพ นำเสนอผลงานภาพวาดและลายเส้นของศิลปินไทยที่หลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีการคัดเลือกศิลปินที่มีผลงานโด่งดังมาจัดเป็น Hall of Frame ในธีม “Drawing Story” รวมถึงนำเสนอตัวอย่างคอลเลกชั่นหนังสือที่ได้รับคัดเลือกเข้ากรุ “Thai Book Archive” ในหมวดหมู่หนังสือที่ได้มีการต่อยอดไปยังสื่อประเภทอื่นๆ ทั้งละคร ภาพยนตร์ และเกม

การเดินทาง

• รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3 แล้วเดินผ่านอุโมงค์ทางเชื่อมเพื่อเข้างานมหกรรมหนังสือฯ ชั้น LG ได้ทันที

• รถไฟฟ้า BTS

ลงสถานีอโศกเชื่อมกับ MRT สถานีสุขุมวิท แล้วนั่งต่อมาลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3

• รถไฟฟ้า Airport Link

ลงสถานีมักกะสันเชื่อมกับ MRT สถานีเพชรบุรี แล้วนั่งต่อมาลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3

• รถประจำทาง

ให้นั่งสาย 136 (คลองเตย-หมอชิต) และสาย 185 (รังสิต-คลองเตย) มาลงป้ายศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

• รถส่วนตัว

ลงมาจอดที่ชั้นใต้ดิน B1 B2 และ LM (รถจักรยานยนต์) มีพื้นที่รองรับกว่า 3,000 คัน ที่สำคัญยังจอดฟรีไม่จำกัดชั่วโมง!

เรียกได้ว่าภายใน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำมากมาย แถมยังเดินทางไปได้สะดวกอีกด้วย แต่ถ้าของเต็มไม้เต็มมือกันจนแบกไม่ไหว ก็สามารถใช้บริการส่งของผ่านไปรษณีย์แบบ EMS ได้ ซึ่งภายในงานนี้จะคิดในราคาพิเศษเหมาๆ ส่งได้เต็มกล่อง ไม่ต้องชั่งน้ำหนักในราคา 50 บาท

อัปเดตมาตรการ “เข้าไต้หวัน” รับเปิดประเทศไม่ต้องกักตัว-ฟรีวีซ่า 13 ต.ค.

10 จุดเช็กอินยอดฮิตใน “ไต้หวัน” กินเที่ยวครบรส งบสบายกระเป๋า