เปิดประเทศทั้งที ต้องไปเช็กอิน! แจก 10 พิกัดที่เที่ยวยอดฮิตในไต้หวัน สัมผัสแลนด์มาร์กสำคัญ กินช้อปของขึ้นชื่อ ใช้งบในราคาหมื่นต้น ๆ ก็ไปได้ครบ
นับเป็นข่าวดีสำหรับสายเที่ยว หลังทางการ “ไต้หวัน” ออกประกาศอย่างเป็นทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวตั้งแต่ 13 ตุลาคมนี้ แถมยังเปิดฟรีวีซ่า (Visa-free) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2565 ไปจนถึง 31 กรกฎาคม 2566 ให้เดินทางพักผ่อนหย่อนใจกันได้อย่างจุใจ
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวในไต้หวัน ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้คัดสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปที่ไม่ควรพลาด เตรียมตัวไปเช็กอินกันได้เลย
อัปเดตมาตรการ “เข้าไต้หวัน” รับเปิดประเทศไม่ต้องกักตัว-ฟรีวีซ่า 13 ต.ค.
ปธน.ไต้หวันปราศรัยวันชาติ ลั่นไม่ประนีประนอมเรื่องอธิปไตย
1.) ตึกไทเป 101 (Taipei 101)
ตึกไทเป หรือ Taipei World Financial Center ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไต้หวัน ด้วยความสูงของตึกกว่า 508 เมตร มีทั้งหมด 101 ชั้น พร้อมด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้ตึกนี้ทนต่อการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ป้องกันวินาศภัยทางอากาศ และยังมีลิฟต์ความเร็วสูงอีกด้วย
ด้านล่างของตึกจะเป็นศูนย์การค้าที่มีแบรนด์เนมจากทั่วทุกมุมโลก ส่วนด้านบนจะเป็นจุดชมวิวที่เรียกว่า “Taipei 101 Observatory” มีทั้งหมด 3 จุด คือ จุดชมวิวติดกระจกชั้นที่ 89, จุดชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 (จะปิดให้บริการหากมีพายุ) และจุดชมวิวชั้นที่ 87 ซึ่งมีลูกตุ้มสีทองขนาดใหญ่อยู่ เป็นการออกแบบโครงสร้างเพื่อใช้ในการรับมือกับพายุและแผ่นดินไหวกว่า 7.0 ริกเตอร์ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวลูกตุ้มสีทองขนาดใหญ่นี้จะถ่วงน้ำหนักไปยังทิศทางตรงกันข้าม เพื่อให้ตัวตึกกลับมาทรงตัวได้ตามเดิม จัดเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ที่สายเที่ยวอย่างเรา ๆ ไม่ควรพลาดเข้าไปชม
2.) วัดหลงซาน (Lungshan Temple)
วัดหลงซาน หนึ่งในวัดเก่าแก่ของไต้หวันที่มีอายุมากกว่า 300 ปี ภายในวัดมีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีนอยู่มากมาย ใครอยากขอพรด้านไหนสามารถไปที่วัดนี้ได้เลย ทั้งเรื่องการเรียน การงาน สุขภาพ และความรัก แต่ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมาก ๆ คือ การขอพรความรักกับ “เฒ่าจันทรา” ที่สำคัญยังมีเครื่องรางเสริมดวงให้นักท่องเที่ยวได้บูชาพกติดตัวกันกลับมาอีกด้วย
3.) ย่านซีเหมินติง (Ximending)
ย่านซีเหมือนติง จัดเป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวัน เพราะมีทั้งร้านค้าของคนท้องถิ่น แบรนด์เนมชื่อดัง และร้านอาหารมากมาย ขาช้อปและสายกินมาเดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในตอนกลางคืนจะยิ่งคึกคัก มีให้ช้อปทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องสำอาง รวมถึงขนมของฝากจากไต้หวัน และที่สำคัญยังเป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ด ดังนั้นใครอยากดื่มชานมไข่มุกเจ้าดังทั้งหลายของไต้หวัน ที่นี่ถือเป็นอีกแห่งที่ต้องมา
4.)อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก อีกหนึ่งที่เที่ยวหลักในไต้หวันที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1976 เพื่อรำลึกและเทิดทูนต่ออดีตประธานาธิบดี เจียง ไคเชก เป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนที่มีหลังคาสีน้ำเงินทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ มีขั้นบันไดทั้งหมด 89 ขั้นเท่ากับอายุของอดีตประธานาธิบดี และภายในประดิษฐานรูปปั้นทองสำริดของอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก
มีไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวต่างรอชมกัน คือ “พิธีเปลี่ยนเวรทหาร” ซึ่งจะมีขึ้นทุก ๆ ต้นชั่วโมง นอกจากนี้ตัวอาคารยังตั้งอยู่กลางจตุรัสเสรีภาพ ซึ่งเป็นอีกจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่เหล่าช่างภาพมักมาถ่ายภาพกัน
5.) ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)
ทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ด้วยรูปทรงของทะเลสาบทางทิศเหนือที่คล้ายกับพระอาทิตย์ และทางทิศใต้คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว จึงได้รับการขนานนามว่า “ทะเลสาบสุริยันจันทรา” และด้วยความสวยงามราวกับภาพวาด เหล่านักเดินทางจึงยกชื่อให้ว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน”
พื้นที่แห่งนี้จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ที่เมื่อมาแล้วต้องมานั่งเรือชมวิวรอบ ๆ หรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมวิวทะเลสาบจากบนเขา
5 จุดเช็กอิน “ย่างกุ้ง” ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ชิมอาหารท้องถิ่น
นกแอร์เพิ่มรูทบินไปย่างกุ้ง รับเมียนมาเปิดเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
6.) หมู่บ้านฟอร์โมซาน อะบอริจิน (Formosan Aboriginal Culture Village)
หมู่บ้านฟอร์โมซาน อะบอริจิน ศูนย์วัฒนธรรมและสวนสนุกในเขตเมืองหนานโถว ที่ไม่ไกลจากทะเลสาบสุริยันจันทรามากนัก สถาปัตยกรรมแห่งนี้ถูกออกแบบภายใต้ธีมชนเผ่าพื้นเมือง ที่นอกจากจะได้รับความสนุกผ่านโซนทั้ง 5 ของสวนสนุก ได้แก่ European Gardens, The Aladdin Plaza, The Aboriginal Villages การแสดงโชว์ของตนพื้นเมือง, Amusement Isle และ Ti Ka Er Rainfores ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมของชาวเผ่าพื้นเมืองของไต้หวันได้อีก
7.) หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)
หมู่บ้านสายรุ้ง เดิมเป็นหมู่บ้านเก่าของทหารผ่านศึกในยุคสงครามกลางเมืองของจีนที่ลี้ภัยมาอยู่ที่นี่ ต่อมามีการวาดลวดลายและทาสีสันตามผนังและพื้นทางเดินให้ดูสดใสเหมือนสายรุ้ง จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาถ่ายรูปกัน เพราะมีมุมถ่ายรูปเยอะ และเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามต้องระมัดระวังอย่าส่งเสียงดังจนรบกวนคนในพื้นที่ เนื่องจากเป็นบ้านที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่
8.) เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้ (Ciji Temple)
เจดีย์มังกรเสือ ที่อยู่ภายในวัดฉือจี้ มีลักษณะเป็นเจดีย์ 7 ชั้นที่ตั้งอยู่คู่กันที่ริมสระบัว โดยทางเข้าของเจดีย์ทั้งสองจะเป็นรูปปั้นมังกรและเสือขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเซิงต้าตี้ หรือเทพแห่งการรักษา โดยมีความเชื่อว่าใครที่เดินเข้าทางปากมังกรและออกทางปากเสือ จะเสริมสิริมงคลและขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปจากตัวเรา
9.) ท่าเทียบเรือบริเวณปากแม่น้ำตั้นสุ่ย (Tamsui Fisherman’s Wharf)
ท่าเทียบเรือบริเวณปากแม่น้ำตั้นสุ่ย ท่าเทียบเรือทางตอนเหนือของไต้หวันที่มีทัศนียภาพแสนโรแมนติกจากอาคารสไตล์ยุโรปริมท้องทะเลกว้าง และมีไฮไลต์อยู่ที่สะพานโค้งสีขาว รูปร่างคล้ายใบของใบเรือ ที่ทอดตัวลงมาตัดกับสีน้ำเงินของผืนน้ำทำให้โดดเด่นสะดุดตาไปพร้อมกับบรรยากาศที่น่าประทับใจ
10.) ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Forest Recreation Area)
ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน พื้นที่ป่าฝนดิบชื้นโบราณอายุนับพันปี ที่ผืนป่ายังอุดมสมบูรณ์มองไปรอบๆแล้วเห็นแต่ความเขียวขจี ยิ่งใครได้มาสัมผัสในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้เห็นทัศนียภาพแบบป่าฝนอันชุ่มชื้น สลับกับสายหมอกสีขาวลอยหนาล้อแนวยอดไม้ตลอดทั้งปี จัดเป็นพิกัดเที่ยวสายธรรมชาติอันดับต้น ๆ ที่คนรักผืนป่าและขุนเขาต่างแนะนำให้มา
ทั้งหมดนี้ถือเป็น 10 พิกัดท่องเที่ยวในไต้หวันที่น่าสนใจ แถมยังใช้งบไม่เยอะ หากคำนวณค่าใช้จ่าย อย่างราคาตั๋วเครื่องบินสายการบินแบบ Low Cost ไป-กลับประมาณ 5,000 บาท ค่าที่พักจะมีเริ่มต้นตั้งแต่ 600 บาท ไปจนถึง 2,000 บาทต่อคืน และค่าอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ตกเฉลี่ยวันละ 700 - 1,000 บาทต่อคน รวมถึงค่าช้อปปิ้งของที่ระลึกของฝากต่าง ๆ อีกประมาณ 3,000 บาท รวม ๆ แล้วไปพักผ่อนประมาณ 2-3 วัน จะใช้เงินราวหมื่นต้น ๆ เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ
เที่ยว “วังเวียง” กุ้ยหลินเมืองลาว สัมผัสเสน่ห์ขุนเขา-สายน้ำ-ผู้คน