ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. สหภาพยุโรป (EU) ประกาศว่า ภายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 แอปเปิล (Apple) และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่น ๆ จะต้องผลิตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ให้รองรับหัวชาร์จแบบ USB-C เท่านั้น โดยจะมีผลกับ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป
การประกาศดังกล่าวเป็นไปตามการเจรจาไตรภาคีของคณะกรรมาธิการยุโรป สภายุโรป และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป โดยต้องมีการอนุมัติขั้นสุดท้ายก่อนที่จะมีผลบังคับใช้
กฎใหม่ “อียู” ผลิตสมาร์ทโฟน-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้หัวชาร์จ USB-C
บราซิลสั่งห้าม “แอปเปิล” ขายไอโฟนแบบไม่แถมที่ชาร์จ
อัปเดตอุปกรณ์ด่วน! แอปเปิลพบช่องโหว่ iPhone-iPad-Mac เสี่ยงถูกแฮก
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) สภายุโรปได้ลงมติขั้นสุดท้าย ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนขาดลอย 602 ต่อ 13 เสียง บังคับให้สายชาร์จสำหรับโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต กล้องดิจิทัล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยจะใช้แค่หัวชาร์จแบบ USB-C เท่านั้น
ในบรรดาผู้ให้บริการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ให้กับลูกค้าในยุโรป คาดว่า แอปเปิลจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะผลิตภัณฑ์มีหัวชาร์จที่แตกต่างไปจากหัวชาร์จของแบรนด์อื่น ๆ โดยแอปเปิลจะถูกบังคับให้เปลี่ยนหัวชาร์จสำหรับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (ตราบใดที่แอปเปิลยังต้องการขายสินค้าในยุโรป) โดยแอปเปิลยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีใดต่อข่าวนี้
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ประเมินว่า ข่าวที่เหมือนจะเป็นข่าวร้ายสำหรับแอปเปิลนี้ มีโอกาสซุกซ่อนอยู่ เพราะอาจเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตของบริษัทได้ แทนที่จะซื้ออุปกรณ์รุ่นเดิม ๆ ที่ไม่มี USB-C
อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่นี้ยังอาจมีผลกระทบต่อ ซัมซุง หัวเว่ย และผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายอื่น ๆ ด้วย
เบน วูด หัวหน้านักวิเคราะห์ของ CCS Insight กล่าวว่า มตินี้จะทำให้แอปเปิลหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพัฒนาไอโฟน 15 (iPhone 15) ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2023 ต้องมีพอร์ตหัวชาร์จ USB-C สอดคล้องกับที่บลูมเบิร์กรายงานเมื่อเดือน พ.ค. ว่า แอปเปิลกำลังพัฒนาไอโฟนที่มีพอร์ตชาร์จ USB-C ซึ่งจะเปิดตัวในปีหน้า
วูดเสริมว่า เขาคาดว่าแอปเปิลจะใช้หัวชาร์จ USB-C ในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP