ไป่ตู้ (Baidu) บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดให้ประชาชนจีนใช้งาน “เออร์นีบอต” (ERNIE Bot) แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกของประเทศ ที่พัฒนาเรื่องความฉลาดในการตอบคำถามมากขึ้น โดยไปตู้ หวังแก้มือหลังเคยเปิดตัวเออร์นีบอตไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมองว่าเออร์นีบอตนี้จะสามารถเป็นคู่แข่งกับ ChatGPT จากบริษัท OpenAI ของสหรัฐฯ ได้ และนับว่าเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ
“ไป่ตู้” เปิดตัวแล้ว “เออร์นีบอต” แชตบอตสัญชาติจีน คู่แข่ง ChatGPT
“ไป่ตู้” เอาด้วย พัฒนาแชตบอตอัจฉริยะ ในชื่อ “เออร์นีบอต”
คาเฟ่ญี่ปุ่นเปิดตัว “Giraffepod” ให้บริการยืนงีบหลับ
โดยรัฐบาลจีน สนับสนุนงบประมาณเพื่อทุ่มเทให้กับนักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาแข่งกับ ChatGPT แชตบอตปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะจากบริษัท OpenAI โดยไป่ตู้ เปิดตัวเออร์นีบอตไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่มีกระแสตอบรับที่ไม่ดีเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม เทรนด์เทคโนโลยีของจีนมีแนวโน้มพัฒนาไปทางด้านปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น ไป่ตู้ จึงถือโอกาสนี้เปิดใช้งานเออร์นีบอต ให้ประชาชนจีนใช้งานได้เท่านั้น บุคคลนอกประเทศไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทางตัวแทนของไป่ตู้กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะแจ้งให้ประชาชนจีนทุกคนทราบว่า เออร์นีบอต เปิดให้ทุกคนสามารถใช้บริการได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป และเรายังเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ ที่มี 4 คุณสมบัติที่สามารถสัมผัสถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น ได้แก่ ความเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์ ความมีเหตุผล และความทรงจำ”
แม้ เออร์นีบอต จะเป็นแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเรียนรู้ข้อมูลได้มหาศาล และสามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนมากมายได้ แต่จากการควบคุมกระบวนการพัฒนาโดยรัฐบาลจีน ทำให้สื่อต่างประเทศมองว่าเออร์นีบอตมีความเป็นชาตินิยมสูง และยึดมั่นในแนวทางของ “ลัทธิคอมมิวนิสต์”
โดยตัวแทนจากสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่ง ทดสอบการใช้งานเออร์นีบอตด้วยการถามคำถามเบื้องต้น เช่น “เมืองหลวงของจีนชื่ออะไร?” และ “คุณมีงานอดิเรกไหม?” ซึ่งเออร์นีบอตก็ให้คำตอบที่น่าพึงพอใจ แต่เมื่อถามว่า “อยากทราบรายละเอียด การปราบปรามอันนองเลือดของจีน ต่อผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง ปี 1989” เออร์นีบอตกลับตอบว่า “มาเปลี่ยนหัวข้อและเริ่มใหม่กันเถอะ”
หรือเมื่อถามคำถามเกี่ยวกับไต้หวัน เออร์นีบอตตอบว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนไม่สามารถละเมิดหรือแบ่งแยกได้” พร้อมกล่าวอีกว่า “เราสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าบางหัวข้อสนทนา อาจมีความละเอียดอ่อนหรือเกี่ยวข้องกับประเด็นทางกฎหมาย ดังนั้นความอิสระในการสนทนาระหว่างเราขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง”
โดยแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ชื่อดังอย่าง ChatGPT ถูกสั่งแบนในประเทศจีน เนื่องจากถูกรัฐบาลจีนมองว่าอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ และทำให้ประชาชนอาจถูกบิดเบือนข้อมูล ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกได้ ประกอบกับความต้องการในการพัฒนาเทคโนโลยีให้ทัดเทียมกับชาติคู่แข่ง จีนจึงนำ เออร์นีบอต มาใช้งาน
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก Jade GAO / AFP