หลังจากที่ 9to5Mac รายงานเมื่อ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัท Google ประกาศเลื่อนเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รุ่นล่าสุดอย่าง “Gemini” ไปเป็นช่วงม.ค.ปีหน้า (2024) จากเหตุที่ตัวระบบไม่เข้าใจภาษาอังกฤษได้มีประสิทธิภาพมากพอ
แต่ล่าสุด Google สยบทุกสื่อ เมื่อออกมาประกาศเปิดตัว Gemini เวอร์ชัน 1.0 อย่างเป็นทางการ พร้อมให้ใช้งานเป็นที่เรียบร้อย
โดยวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ Gemini กันว่า มีดีอย่างไร เหตุใดจึงเป็นที่น่าจับตา?
เปิดตัว "Google Pixel 8" พร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่จากงาน "Made By Google"
สื่อไอทีเผยสเปกหลุด "Google Pixel 8a" มาพร้อมดีไซน์โค้งมน-จอกว้างขึ้น
Google Maps เตรียมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ โชว์ข้อมูล "จำกัดความเร็วบนถนน"
Gemini เป็น “โมเดล AI ขนาดใหญ่” หรือ AI LLM ที่ทาง Google จะปล่อยให้ใช้งานใน Bard (แชตบอตที่พัฒนาโดย Google ลักษณะการใช้งานคล้าย Chat GPT ของ OpenAI) ไปก่อน เป็นที่รู้จักครั้งแรกในงาน Google I/O 2023 ที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ธ.ค. 66)
โดยคุณสมบัติคร่าว ๆ ของ Gemini คือ เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบมัลติโมเดล ที่รองรับข้อมูลทั้งข้อความปกติ โค้ด เสียง ภาพ และวิดีโอ Google ระบุว่า Gemini เวอร์ชัน 1.0 มี 3 รุ่น ได้แก่ Gemini Ultra ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่สุด ประสิทธิภาพดีสุด รองรับงานที่มีความซับซ้อนสูง Gemini Pro เป็นรุ่นขนาดรองลงมา โดยยังสามารถทำงานได้หลากหลาย และ Gemini Nano โมเดลประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานบนสมาร์ตโฟน
นอกจากนี้ Google ยังเผยความเจ๋งของ Gemini ด้วยการนำมาทดสอบเปรียบเทียบกับ GPT-4 โมเดล AI ที่ใช้บนแชตบอตอัจฉริยะอย่าง Chat-GPT จาก OpenAI ให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานกันจะ ๆ พร้อมให้คะแนนการทดสอบโดยทีมวิจัยของ Google โดยจะทดสอบในหลากหลายด้าน
เช่น MMLU ชุดคำถามวิชา STEM มนุษยวิทยา และคำถามวิชาต่าง ๆ ได้คะแนนถึง 90% เมื่อเทียบกับ GPT-4 ที่ได้คะแนนไป 86.4% GSM8K ที่เป็นชุดคำถามวิชาคณิตศาสตร์เบื้องต้นที่ใช้กันในโรงเรียน Gemini ได้คะแนนถึง 94.4% เมื่อเทียบกับ GPT-4 ที่ได้ 92% หรือ Infographic VQA ที่เป็นการทดสอบความเข้าใจและการสรุปความจากอินโฟกราฟิก Gemini ได้คะแนนถึง 80.3% ในขณะที่ GPT-4 ได้คะแนน 75.1%
อย่างไรก็ตาม มีเพียงการทดสอบเดียวเท่านั้น ที่ GPT-4 เหนือกว่า Gemini นั่นคือการทดสอบ HellaSwag ที่เป็นการทดสอบเกี่ยวกับการให้เหตุผล หรือ common sense ในชีวิตประจำวัน ที่ GPT-4 ได้คะแนนในส่วนนี้ไป 95.3% ในขณะที่ Gemini ได้คะแนนไป 87.8%
โดย Google จะปล่อยโมเดล Gemini Pro ให้ผู้ใช้ Bard ก่อน และยังจำกัดการใช้งานเฉพาะภาษาอังกฤษ พร้อมมีแผนขยายการรองรับภาษาหรืออินพุตแบบอื่น ๆ ในอนาคต ส่วนผู้ใช้สมาร์ตโฟน Pixel 8 Pro จะได้ใช้โมเดล Gemini Nano ที่รองรับการสรุปจากการอัดเสียง หรือใช้ช่วยตอบข้อความต่าง ๆ ส่วนบริการอื่น ๆ จะตามมาภายหลัง
เรียบเรียงจาก Google
ภาพจาก Google
เปิดใจ! ครูขายโรตีเลี้ยงชีพ หลังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดให้ออกจากราชการ
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566