Vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมตัวล่าสุดออกมาเป็นที่เรียบร้อยกับ “Vivo V50” เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัวรุ่นก่อนหน้าอย่าง Vivo V40 ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2024
Vivo V50 มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มี 3 สีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีแดงเข้ม Ancora Red สีดำ Satin Black และสีม่วง Mist Purple ตัวเครื่องเบา 189 กรัม บาง 7.39 มิลลิเมตร กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68/IP69 ทนน้ำแรงดันสูง อยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานถึง 30 นาที
จอแสดงผลของ Vivo V50 เป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างปกติ 1,300 นิต และปรับสูงสุดได้ถึง 4,500 นิต รองรับ HDR10+มีความละเอียด 1080 x 2392 พิกเซล ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Diamond Shield Glass
ด้านขุมพลัง Vivo V50 ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ขนาด 4 นาโนเมตร จาก Qualcomm รองรับการทำงานหนัก ๆ ได้สบายสำหรับการใช้งานบนมือถือระดับพรีเมียม ตั้งแต่การถ่ายวิดีโอ ถ่ายภาพนิ่ง ไปจนถึงการเล่นเกม CPU 8 คอร์ GPU Adreno 720 รันบนระบบปฏิบัติการ Funtouch 15 ครอบทับ Android 15 พร้อมฟีเจอร์ AI จาก Google
ไฮไลต์ของ Vivo V50 คือในเรื่องของ “กล้อง” โดยรุ่นนี้ยังคงได้รับความร่วมมือในการพัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS เช่นเดิม มีเทคโนโลยีการถ่ายพอร์ตเทรตใหม่อย่าง ZEISS Multifocal Portrait ที่ได้เอฟเฟกต์โบเก้สมจริงขึ้น และระบบจัดแสง AI 3D Studio Lighting จำลองสภาพแสงแบบสตูดิโอให้ทุกภาพพอร์ตเทรตมีมิติ
กล้องของ Vivo V50 จะให้มาทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ 1/1.55 นิ้ว รองรับกันสั่น OIS กล้อง Ultrawide 50 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้างกว่า 119 องศา และกล้องเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้าง 92 องศา ซึ่งกล้างหลังนั้น Vivo จะให้วงแหวนไฟออร่าเพื่อช่วยให้การถ่ายภาพหรือการถ่ายพอร์ตเทรตของเราสว่างขึ้นชัดเจนขึ้นด้วย
ในส่วนของแบตเตอรี่ Vivo V50 ใช้แบตเตอรี่ BlueVolt ให้มาถึง 6,000 mAh รองรับชาร์จไว 90W ชาร์จเพียง 10 นาที จากแบต 1% ก็เพียงพอสำหรับการใช้สนทนาถึง 6 ชั่วโมง
Vivo V50 วางจำหน่าย 2 รุ่นความจุ ประกอบด้วย
- 12+256GB ราคา 15,999 บาท
- 12+512GB ราคา 17,999 บาท
โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ไอที
- วิดีโอยอดนิยม
