วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และคณะประกอบด้วย นายอาเดบาโย โอกุนเลซี ซีอีโอบริษัท Global Infrastructure Partners (GIP) และคณะ True IDC เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ หรือศูนย์ข้อมูลของประเทศไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้โพสต์โซเชียลมีเดียถึงการพบปะในครั้งนี้ ระบุข้อความว่า การพบปะในครั้งนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล-โครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ
จุดหมายของรัฐบาลคือ การปักหมุดให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียน เพื่อไปสู่จุดนั้น เราต้องเดินเครื่องเต็มกำลังโดยเฉพาะการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย
ที่ผ่านมาเรามีการลงทุนจากหลายบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี เช่น Google, Microsoft, Tiktok (ByteDance) โดยในอนาคตเราตั้งเป้าขยับการลงทุนไปสู่ธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจด้านพลังงานสะอาด และ AI
การมุ่งหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจครั้งสำคัญนี้ รัฐบาลเดินคนเดียวไม่สำเร็จ แต่ต้องอาศัยการร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน เชื่อว่าการพูดคุยในวันนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีต่อการทำงานร่วมกัน ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนได้สำเร็จ
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีต่อความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัท GIP ในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย โดยรัฐบาลให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการลงทุนในด้านนี้เพื่อการพัฒนาประเทศให้ทันกับยุคดิจิทัลในโลกสมัยใหม่
ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของภูมิภาค เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน )และบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกต่างพากันเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย และพันธมิตรระดับนานาชาติอย่าง GIP เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยให้ตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาค
ขณะที่ประธานบริษัท GIP ได้แนะนำภาพรวมของบริษัท GIP ซึ่งเป็นบริษัทที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของเครือ BlackRock หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน และโซลูชันการบริหารความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยทั้ง GIP และ BlackRock มีสำนักงานอยู่ในไทย และเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประธานบริษัท GIP เน้นย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย ซึ่งสามารถผลักดันเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่สำคัญของภูมิภาคได้
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลก
ซึ่งรัฐบาลได้สร้างความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำ อาทิ Microsoft, Google และ TikTok โดยนายกรัฐมนตรีต้องการเพิ่มพูนความร่วมมือกับบริษัท GIP ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญและการฝึกอบรมคนไทย โดยอาจพิจารณาเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการศึกษากับมหาวิทยาลัยของไทยเพิ่มเติม ซึ่งประธานบริษัท GIP ยินดีและพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่
นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อไป ว่าประธานบริษัท GIP ชื่นชมวิสัยทัศน์และแนวนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) โดยเชื่อมั่นว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่สำคัญของภูมิภาคได้ เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานและองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ไทยมีความได้เปรียบในทุกด้าน
รวมถึงไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ และรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประธานบริษัท GIP มองว่าไทยเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาค และพร้อมมีบทบาทและความร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างเต็มที่ รองโฆษกฯ กล่าว