ฟ้าทะลายโจรสู้โควิด
เป็นเรื่องเป็นข่าว

รสนา โตสิตระกูล ในฐานะกรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย เปิดเผยเหตุผลที่ลงพื้นที่กระจายฟ้าทะลายโจรให้ชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพราะตอนนี้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการระบาดระลอก 3 และมีปัญหาระบบสาธารณสุข เตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ ผู้ป่วยต้องกักตัวในบ้าน รวมทั้งชุมชนแออัดหลายชุมชน กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคลองเตยใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่สามารถรักษาระยะห่างอะไรได้ ดังนั้นการกระจายยาฟ้าทะลายโจรลงไปจะช่วยชาวบ้านที่ป่วยมีอาการน้อยและปานกลางหายได้ โดยอาการป่วยไม่ลุกลามไปเป็นอาการหนักหรือปอดติดเชื้อก็จะช่วยลดภาระให้กับระบบสาธารณสุขได้
คุณรสนา ระบุว่า การศึกษาเบื้องต้นในหลอดทดลองซึ่งเมื่อปีที่แล้วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับศิริราช สถาบันจุฬาภรณ์ ได้ทดลองกับเนื้อเยื่อปอดมนุษย์ที่ติดเชื้อโควิดแล้วใช้ผงฟ้าทะลายโจรและสารสำคัญทดลองหยดลงไปปรากฏว่าฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิดได้"
ในการทดลอง 5 เคส ที่สมุทรปราการ ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ก็พบว่าเชื้อลดลงเกิน 90% เพียง 5 วันคนไข้หายดี ซึ่งน่าสนใจมาก
เมื่อการระบาดระลอก 2 ที่สมุทรสาคร กรมการแพทย์แผนไทยฯ นำยาฟ้าทะลายโจรมาใช้ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยบาลสนาม รวม 9 แห่ง พบผู้ติดเชื้ออาการน้อยถึงปานกลาง 3 วันอาการดีขึ้นมาก 5 วันหาย กักตัว 14 วันแล้วปล่อยกลับบ้าน เพราะฉะนั้น 304 เคสน่าสนใจมาก เชื้อไม่ลงปอด
"ด้วยเหตุนี้ดิฉันคิดว่าเราควรใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับคนติดเชื้อโควิด หรือคนเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ คนที่อยู่ระหว่างรอตรวจ รอผลแล็บ หรือไม่ว่าคุณจะพบว่าเชื้อลบหรือบวกคุณควรกินฟ้าทะลายโจรเลย 5 วันเท่านั้น อันนี้เป็นการป้องกันคนที่อาการน้อย ปานกลาง ไม่ให้ลุกลามไปเป็นอาการหนัก"
คุณรสนา บอกว่า เราต้องพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะชุมชนแออัด เพราะพวกเขาไปไหนไม่ได้ ญาติพี่น้องก็จะติดเชื้อไปด้วย การมีฟ้าทะลายโจรในการรักษาจะช่วยจัดการไม่ให้ลุกลาม เพราะถ้าลุกลามไปแล้วต้องใช้ยาฟาร์วิพิราเวียร์ซึ่งต้องสั่งจากต่างประเทศและมีราคาแพงมากต่อคนที่จะใช้รักษา 4,800 บาท แต่ถ้าใช้ฟ้าทะลายโจรเศรษฐกิจจะหมุนเวียนในประเทศได้