ความสมดุล แบบ “คอนเต้”

เกมเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่ม บอร์นมัธ 3-0 นับเป็นชัยชนะนัดที่ 12 ติดต่อกันในเกมลีก ภายใต้แผนการเล่น 3-4-3 ของ อันโตนีโอ คอนเต้ ส่งผลให้ ทัพสิงห์บลู ยังรั้งจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนี่ยวแน่น

แม้ก่อนเกมกุนซือชาวอิตาลี จะต้องมีเรื่องให้คิดหนักในการจัดตัวผู้เล่น เพราะขาด เอ็นโกโล ก็องเต้ กับ ดิเอโก้ คอสต้า   สุดท้ายบิ๊กบอสจอมเฮี้ยบ ส่ง เชส ฟาเบรกัส ที่ช่วงหลังฟอร์มดีขึ้นแทนตำแหน่งของ ก็องเต้ ขณะที่แดนหน้า 3 คน กลับใช้ เอเด็น อาซาร์, วิลเลี่ยน และเปโดร โรดริเกซ แทนที่จะเป็น มิชี่ บัตชูอายี่ ที่เป็นกองหน้าโดยธรรมชาติ

สิ่งที่เห็นได้ชัดในเกมนี้ คือ รูปแบบการเข้าทำที่เปลี่ยนแปลงพอสมควร ไม่เน้นการโยนหรือขึ้นเกมจากริมเส้น หันไปเจาะตรงกลางเป็นหลัก จนได้มา 3 ประตูอย่างที่เห็น การได้นักเตะใหม่ ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ รวมถึงดึง วิคเตอร์ โมเซส กลับจากการยืมตัว เล่นเข้ากับระบบ 3-4-3 ของ คอนเต้ ได้เป็นอย่างดี แม้ช่วงแรกจะเพลย์เซฟยึดระบบกองหลัง 4 คนไว้ก่อนก็ตาม 

ทำไมต้อง 3-4-3 แทนที่จะเป็น 3-5-2 อย่างที่ คอนเต้ เคยประสบความสำเร็จกับยูเวนตุส หรือสมัยคุมทีมชาติอิตาลี?

อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่านักเตะของเชลซี แทบจะไม่คุ้นเคยเลยกับระบบหลัง 3 คน กุนซือคนไหนเข้ามาก็จะยึดระบบกองหลัง 4 คน ทำให้บรรดานักเตะที่มีอยู่จะไม่มีวิงแบ็คสไตล์วิ่งขึ้นลง ซึ่งเป็นจุดสำคัญของแผน 3-5-2 ที่วิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง ต้องครบเรื่องทั้งเกมรุกและเกมรับ

ขณะที่กองหน้า ดิเอโก้ คอสต้า ดูจะโดดเด่นขึ้นมาคนเดียว และอีกอย่างเชลซีก็ไม่เคยเล่นกองหน้าคู่มานานแล้ว ทำให้นักเตะที่หลายๆกุนซือซื้อมาร่วมทัพ จะเป็นพวกปีกหรือเพลย์เมกเกอร์ซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น อาซาร์, วิลเลี่ยน, เปโดร หรือแม้แต่ ออสก้า ที่ปัจจุบันย้ายไปลีกจีนเรียบร้อยแล้ว

ด้วยนักเตะที่มีอยู่ คอนเต้ จะทำอย่างไรในระบบที่เขาถนัด?

เกมรับ แบบ “คอนเต้” 

กองหลัง 3 คนของ คอนเต้ มีการปรับเปลี่ยนบทบาท ดาวิด ลุยซ์ ยืนเป็นตัวกลาง โดยมีแกรี่ เคฮิลล์ และเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ถนัดในตำแหน่งแบ็คขวาหรือบางครั้งถูกจับมาเล่นแบ็กซ้าย ในบทบาทกองหลัง 3 ดาวเตะชาวสเปน ก็ทำได้ดีเช่นกัน เป็นตัวชนคู่ เคฮิลล์ โดยมีลุยซ์ เป็นตัวเก็บจังหวะ 2 แม้ช่วงต้นฤดูกาล ลุยซ์ จะออกอาการเฟอะฟะบ่อยในระบบหลัง 4 แต่ในยามที่ต้องกลับมาใช้แผนที่ถนัด คอนเต้ คงมองแล้วว่านักเตะสไตล์นี้ เหมาะที่จะเป็นกองหลังตัวกลาง ซึ่งสามารถเปิดบอลยาวๆจากหลังขึ้นหน้าได้ดี พาบอลขึ้นมาทำเกมได้ในยามที่ทีมต้องเล่นเกมรุก คล้ายๆกับ เลโอนาร์โด โบนุชชี ที่มีข่าวว่าคอนเต้ต้องการดึงมาร่วมทีมในช่วงแรกที่รับตำแหน่ง

เกมแดนกลาง แบบ “คอนเต้”

คอนเต้ จับ เอ็นโกโล้ ก็องเต้, เนมานย่า มาติช และเชส ฟาเบรกัส สลับลงเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งมีเพียง 2 คนเท่านั้น ทำหน้าที่คอยตัดบอล แย่งบอลคู่แข่ง ต่างจากสมัยยูเว่และทีมชาติ ที่มี 3 คน ซึ่งเป็นตัวตัดเกม 1 คน และตัวกลางอีก 2 คน แต่จุดที่ทั้งสองระบบเหมือนกันคือมีวิงแบ็คสองข้าง สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์,เมาริซิโอ อิสลา และควัดโว อซาโมอาห์ สมัยยูเว่ มัตเตีย เด ชิโญ, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี ,มัตเตโอ ดาร์เมียน หรือแม้แต่ อันโตนิโอ คันเดรวา ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีในทีมชาติ

ส่วนเชลซี ไม่มีนักเตะสไตล์วิงแบ็คแบบนี้ อัซปิลิกวยต้า, อิวาโนวิช ไม่โดดเด่นนักในเกมรุก ส่วนทาง บาบ้า ราห์มาน รุกดี แต่เกมรับหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง ก่อนโดนปล่อยไปฝึกเลเวลกับ ชาลเก้ 04  ทว่าการดึง วิคเตอร์ โมเซส ที่ถูกปล่อยยืมตัวกลับมาอยู่ในแผนการทำทีม ประกอบกับ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่คอนเต้ น่าจะถูกใจตั้งแต่แบ็คชาวสเปนค้าแข้งในอิตาลีแล้วทำให้พอจะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในตำแหน่งวิงซ้ายขวา และ โมเซส ก็มีส่วนสำคัญในเกมทางกราบขวาจริงๆ การกระชาก การเลี้ยงจี้คู่แข่งทำได้เยี่ยม ส่วนยามต้องเล่นเกมรับ ความถึก ความขยันก็ลงมาช่วยทีมได้เยอะ ด้าน อลอนโซ่ เจ้าตัวไม่ได้มีความหวือหวาอะไรเป็นพิเศษ แต่มีวินัยในการเล่นสูง ยืนตำแหน่งได้ดี คงเป็นเพราะคุ้นเคยสมัยอยู่กับฟิออเรนติน่า และสามารถเติมขึ้นไปช่วย อาซาร์ ในการเล่นเกมรุกได้

เกมรุก แบบ “คอนเต้”

มากันด้านหน้า ซึ่งมี 2 คนเป็นตัวรุกสร้างสรรค์เกมด้านหลัง คอสต้า ในตำแหน่งหน้าเป้า โดย 2 เหตุผลที่ คอนเต้ ไม่ใช้กองกลาง 5 คน คงเป็นเพราะเชลซีมีนักเตะในตำแหน่งเบอร์ 10 หลายๆคนนั้นเอง จะดร็อปใครก็เสียดายละมั้ง!

อาซาร์ ตั้งแต่เปลี่ยนระบบการเล่น ดาวเตะกัปตันทีมเบลเยียม มีอิสระ ไม่ประจำการด้านซ้ายอย่างที่เคย กลับมาสู่ฟอร์มที่แฟนๆต้องการเห็นอีกครั้ง ปัจจุบันยิงไปแล้ว 9 ประตู ส่วนอีกคนในตำแหน่งเดียวกัน ช่วงแรก เปโดร ทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่บางเกมบทจะเล่นไม่ออกก็หายไปดื้อๆ เช่นเดียวกับ  วิลเลี่ยน ที่หาความคงเส้นคงวาไม่ได้ ขณะที่อีกเหตุผลคือการหาคู่หูของ คอสต้า ไม่ได้นั่นเอง มิชี่ บาตชูอายี่ ดูจะถูกนำมาเติมเต็มในตำแหน่งนี้หากคอนเต้จะเล่นหน้าคู่ แต่ผลงานก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่นัก

นั่นล่ะ! 3-4-3 ดูลงตัวที่สุดสำหรับขุนพลที่มีอยู่ของเชลซี แต่เชื่อเลยว่าถ้าไม่โดนเสี่ยหมีปลดออกซะก่อน ฮ่าๆๆๆ (คงไม่เร็วๆนี้) กุนซือชาวอิตาลี น่าจะมีไม้เด็ดเสริมทัพตัวผู้เล่นที่เขาต้องการ เพิ่มให้ทีมสมดุลมากขึ้น มีนักเตะพร้อมใช้งานในตำแหน่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบทีม ไม่แน่อาจจะช่วงปีใหม่นี้ก็ได้ หลังได้กำไรงามๆจากการขาย ออสก้า

แต่ไม่ว่าจะ เชลซี ยูเวนตุส หรือทีมชาติอิตาลี อันโตนิโอ คอนเต้ มีจุดเด่นคือ สร้างความเชื่อมั่น ทำให้ลูกทีมเล่นด้วยความฮึกเฮิม มีวินัย มีความสมดุล และเสียประตูยากตามสไตล์อิตาลี ความโชคดีในฤดูกาลแรกของ คอนเต้ ที่ลูกทีมเรียนรู้ระบบได้เร็ว เพราะไม่มีโปรแกรมเล่นเกมยุโรปสามารถโฟกัสจุดต่างๆที่ต้องเสริมต้องแก้ไขได้  ทั้งหมดทั้งมวลก็ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ อันโตนีโอ คอนเต้ นำเข้ามาปรับเปลี่ยนเชลซี จากการเล่นระบบเดิมๆ กลายเป็น 3-4-3 ที่ขณะนี้กำลังมุ่งหน้าโคจรในเส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง...

---TUM Thunder---

 

AFP Photo /Glyn KIRK

AFP Photo /Ben STANSALL

AFP Photo / OLIVIER MORIN

www.dailymail.co.uk /// www.outsideoftheboot.com