ฟรานเชสโก บาญาญ่า นักบิดหน้าหวานชาวอิตาลี ก้าวสู่การแข่งขัน ซีอีวี แชมเปียนส์ชิป ในสเปนปี 2010 และเขาได้อันดับสามในตารางคะแนนรวมในปีนั้น บาญาญ่า ได้รับการยืนยันอีกครั้งสำหรับทีมการแข่งขัน Monlau Competicion ในปี 2012 และชนะการแข่งขันอีกครั้งก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลก โมโตทรี ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับ Roman Fenati ใน Team Italia FMI ในปี 2013
“มาร์เกซ” รับมีปัญหาที่ไหล่ตอนเทสต์รอบแรก
กว่าจะเป็นแชมป์โลกของ "ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่" นักบิดคนแรกในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
สำหรับปี 2014 บาญาญ่า เปลี่ยนทีมและรถ โดยเขาเข้าร่วมทีม Sky Racing Team VR46 ด้วยรถ KTM และในปี 2015 ก็ได้นำความท้าทายใหม่มาสู่ทีม Aspar Team Mahindra นักบิดชาวอิตาลีมักมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อโพเดียมเสมอ โดยเขารักษาที่นั่งในทีมของตัวเองไว้ในปี 2016 และไม่เพียงแต่สามารถคว้าชัยชนะครั้งแรกในโมโตทรีที่สนาม แอสเซน ได้เท่านั้น แต่เขาคว้าชัยชนะครั้งที่สองได้ที่ เซปัง มาเลเซีย อีกด้วย
บาญาญ่า ได้โอกาสลงทดลองขี่รถ โมโตจีพี ของทีม ในช่วงหลังจบฤดูกาลที่บาเลนเซีย เขาถูกดันขึ้นไปขี่ในรุ่น โมโตทู ในปี 2017 อยู่กับทีม Sky Racing Team VR46 และในปีนั้น บาญาญ่า ได้รับรางวัล Rookie of the Year โดยได้ขึ้นโพเดียม 4 ครั้ง จบในอันดับที่ 5 ในตารางรวมคะแนนชิงแชมป์โลก
ในปี 2018 บาญาญ่า ลงสนามและเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกโมโตทู ด้วยชัยชนะถึง 8 สนาม และคว้าโพเดียมรวมทั้งหมด 12 ครั้ง ด้วยความสม่ำเสมอ บาญาญ่า คว้าแชมป์โลกโมโตทูได้ในการแข่งขันที่มาเลเซียก่อนจะจบฤดูกาล
ฟรานเชสโก้ บาญาญ่า ได้โอกาสทดสอบรถโมโตจีพี และผลงานออกมาน่าประทับใจ เขาถูกดันขึ้นสู่การแข่งขันในระดับสูงสุดอย่าง โมโตจีพี แข่งให้กับทีม Pramac Racing ในปี 2019 แม้ในปี 2019 จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ บัญญาญ่า แต่อันดับที่ 4 ในออสเตรเลีย ก็ส่งสัญญาณที่ดีในอนาคตของเขาในโมโตจีพี
ปี 2020 เป็นปีที่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นปีที่ผสมผสานนักบิดชาวอิตาลีรายนี้และรถ GP-20 ของเขาได้อย่างลงตัว
บาญาญ่า คว้าอันดับ 2 ได้อย่างน่าประทับใจใน San Marino GP และอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาในเส้นทางเดียวกัน เขาเกือบจะคว้าแชมป์โมโตจีพีครั้งแรก จนกระทั่งการเขาพลาดไถลออกนอกสนาม ทำให้ความหวังจะค้วาชัยชนะครั้งแรกสิ้นสุดลงอย่างเจ็บปวด เขาไม่เคยเข้าใกล้ตำแหน่งโพเดียมได้อีกเลยในการแข่งขันที่เหลือ แต่ปี 2021 นำความหวังใหม่มาให้กับ บัญญาญ่า อีกครั้งเมื่อเขามีโอกาสได้ขี่ให้ทีมโรงงานของดูคาติ
สามโพเดียมและโพลโพสิชั่น ใน 4 สนามแรกของฤดูกาล 2021 ส่งสัญญาณให้คู่แข่งรู้ว่านักบิดอิตาเลี่ยนรายนี้พร้อมแย่งแชมป์โลก และถึงแม้จะผิดพลาดฟอร์มตกลงในช่วงกลางฤดูกา ก็สามารถกลับมาคว้าชัยชนะครั้งแรกในโมโตจีพีของ บัญญาญ่า เกิดขึ้นที่สนาม อารากอน ในประเทศสเปน ซึ่งเป็นการต่อสู้กับ มาร์ค มาร์เกซ อย่างสุดมัน และเขาก็คว้าชัยชนะที่สองต่อทันทีที่ ซานมาริโน ในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น
บัญญาญ่า หมดลุ้นแชมป์โลกในปี 2021 ด้วยความผิดพลาด ล้มในระหว่างการแข่งที่มิซาโนเรซครั้งที่สอง แต่ชัยชนะในสองสนามสุดท้ายของปีทำให้ทีมของเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกในปี 2022
ในปี 2022 ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า และทีม ดูคาติ เลอโนโวทีม ของเขายังมีปัญหากับรถตัวแข่งใหม่ที่ยังปรับเซตได้ไม่เข้าที่เข้าทาง ผ่านช่วง 5 สนามแรกผลงานยังออกมาไม่ดี ไม่มีโพเดียมให้ได้เห็น จนกระทั่งมาโชว์ผลงานสุดยอดคว้าชัยชนะแรกของปีได้ที่ เฆเรซ และครั้งที่สองที่ มูเจลโล ก่อนจะฟอร์มสดุดไปในอีก 2 สนามต่อมา
แต่ "เป้กโก้" ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า ก็กลับมางัดฟอร์มระดับสุดยอดเพื่อประกาศกร้าวว่ากำลังกลับมาลุ้นแย่งตำแหน่งแชมป์โลกในปีนี้ด้วยการ ชนะรวด 4 สนามติด ตั้งแต่สนามที่ 11 - 14 และอันดับที่ 2 ในสนามที่ 15 อารากอน คะแนนอยู่ในอันดับที่ 2 ในตารางชิงแชมป์โลกตามหลังผู้นำอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ แค่ 10 คะแนน หลังจบ สนามที่ 15 ในปี 2022 และในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลที่เป็นสนามนอกยุโรป อย่างเอเชียและออสเตรเลีย อาจจะเป็นการขับเคี่ยวที่สุดมันก่อนจะต้องกลับไปตัดสินแชมป์กันสนามสุดท้ายที่บาเลนเซีย
โค้งสุดท้าย "โมโตจีพีประเทศไทย" เดินหน้าจัดเต็ม รับเกมสองล้อระดับโลก
เคลียร์จบ "เอ็มบัปเป้" ยอมถ่ายรูปร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศส