อยากให้ทาง เจ ชี้แจง ไม่เล่นชิงแชมป์อาเซียน
จริงๆ ก็อยากจะบอกคือ ทีมเขาถามว่า ผมจะไปเล่นหรือเปล่า เพราะทีมเขาก็ คือจริงๆ ญี่ปุ่นคือปกติถ้าไม่ใช่ ฟีฟ่า เดย์ คือจะพูดยังไงอ่ะ ก็ไม่อยากให้เราไปเล่น เพราะว่าจริงๆแล้ว ปีที่แล้วผมเพิ่งเล่นมา แล้วคือผมไม่มีวันหยุด ต้องเล่าก่อนนะ อยู่ๆก็มา คาวาซิกิ โดยที่แบบไม่ได้พักเลย ร่างกายผมก็ไม่ได้พัก ถูกไหมครับ กลายเป็นว่าผมก็ต้องมาสู้อีก แล้วพอปีนี้ จัดอีกแล้ว กลายเป็นว่า ไม่ใช่ว่า ใจจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเล่นทีมชาตินะ แต่คือผมเล่นมา 4 ครั้งแล้วกับถ้วยนี้
สื่อญี่ปุ่นเผย "เจ ชนาธิป" รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเท่าตัว
"เจ ชนาธิป" พักยาว ส่อชวด "เจลีก" ทั้งฤดูกาล
"เจ ชนาธิป" เจ็บพัก 2 เดือนชวดช่วยทีมชาติไทย ลุยเอเชียน คัพ
แล้วก็ปีนี้ เป็นปีที่ผมคิดว่า ผมเองก็ไม่พร้อม เพราะว่า 4 ปีมานี้ ผมเจ็บปีละ 4 ครั้ง เท่ากับว่า ทุกปีผมจะได้พักก็ตอนผมเจ็บ เท่ากับว่า ผมก็เหมือนแบบ ร่างกายไม่ได้ฟื้นฟูโดยที่แบบไม่ได้ 100%
จริงๆ ผมก็เลยอยากรู้ว่า แล้วถ้าปีนี้ผมไม่เล่น ปีหน้าร่างกายผมจะสดหรือเปล่า แล้วอีกอย่าง เด็กๆเขาก็รอโอกาสที่ เหมือนแบบพัฒนาขึ้นมา สุดท้ายตอนนี้ เราก็ไม่เห็นว่า ใครล่ะที่จะมีแบบ พร้อมขึ้นมาเป็นอะไหล่สำคัญที่จะช่วยทีมชาติในอนาคต มีแค่ไม่กี่คนเอง เท่ากับว่า การที่เรามีไม่กี่คน สุดท้ายก็ไปสู้เอเชียได้อยู่ดี
ผมคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างพวกเขาขึ้นมา วันหนึ่งผมอาจจะเลิกเล่น แต่สุดท้ายวันหนึ่งผมอาจจะมาดูพวกเขาเล่น พวกเขาน่าจะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ จริงๆแล้ว การเล่นทีมชาติ แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นอาเซียน บอลอะไรก็แล้วแต่ ทีมชาติแพ้ไม่ได้อยู่แล้วครับ การที่จะเอาใครไปเล่นก็แล้วแต่ ก็อยากให้ได้แชมป์ คือแชมป์ มันต้องแชมป์อยู่แล้วล่ะ ถ้าสมมติเราไม่ได้แชมป์ แน่นอนว่าแฟนบอลผิดหวังอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติ แต่มันต้องมีนักฟุตบอล ที่สามารถที่จะแบบเป็นดาวรุ่งขึ้นมา มีแววที่จะสามารถไปต่อในอนาคตได้ ผมก็หวังว่าน้องๆ ที่ได้โอกาส
แน่นอนว่า ผมอาจจะไม่ได้ไปเล่น เพราะว่า อยากจะบอกว่าผมมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ผมอยากให้ตัวเองพร้อมมากกว่านี้มากกว่า เพราะว่าเขาแข่งวันที่เท่าไรนะ 20 ธ.ค.ใช่ไหมครับ ถึง 16 ม.ค. ซึ่ง 15 ม.ค.ทีมผมเก็บตัวแล้ว พรีซีซั่น เท่ากับว่าผมมาช้า เท่ากับว่าร่างกายผมไม่ได้พักอีก ก็ต้องมาสู้อีก กลายเป็นว่า พอผ่านไป ร่างกายผมก็เจ็บอีก คือผมเป็นแบบนี้มาประมาณ 4 ปีแล้ว ซึ่งก็รู้สึก เสียใจนะที่ไม่ได้ไปเล่น แต่ก็ผม รู้สึกว่าผมตัดสินใจมาตั้งแต่ พูดมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้หลายเดือน สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเล่นทีมชาติ แต่ผมไม่พร้อมที่จะเล่นด้วย แล้วก็เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้มาโชว์ ได้มาเห็นอนาคต ฟุตบอลไทยจะไปได้ไกลแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องทำผลงานให้ได้ดี เพราะแฟนบอลไทย เขาต้องการผลการแข่งขันที่ดีด้วย
ตอนนี้เราโฟกัสอาเซียนมากไปไหม ควรมองให้ไกลกว่านี้หรือเปล่า
ผมว่าเราต้องมองเป็น 2 มุมมองก่อน มุมมองของแฟนบอล มุมมองขององค์กรกีฬา ถ้ามุมมองแฟนบอล แฟนบอลต้องการประสบความสำเร็จอยู่แล้ว มุมมองของสมาคมก็ต้องการประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายแล้ว แฟนบอลก็ด่าอยู่ดี กลายเป็นว่า ตอนนี้ มันก็มี 2 พวก อยากให้คนนี้ไปเล่น อยากให้คนนี้ไปเล่น สุดท้ายแล้ว ผมว่าเราต้องมองระยะที่ไกลมากกว่า ไกลมากขึ้น
อาเซียนทุกทีมก็เก่งเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง คือเราอย่าไปมองว่าพวกเขาจะด้อยค่ากว่าเรา พวกเขาก็เก่ง พวกเขาก็สามารถพัฒนาขึ้นมาสู้กับเราได้ แต่เราจะทำอย่างไรให้มีทรัพยากรนักฟุตบอลที่มันดีขึ้นมากกว่านี้ ฟุตบอลไทยต้องมีมาตรฐานที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่ามีแค่ทีมใหญ่ 4-5 ทีม ที่แบบทุกปี ถ้าสมมติเราทำให้มาตรฐานขึ้นได้ ก็เป็นสิ่งที่ดีต่อนักฟุตบอลไทย
ผมเชื่อว่าแฟนบอลเขาน่าจะเข้าใจ แล้วก็อนาคต เราก็น่าจะพัฒนาไปพร้อมกัน ผมว่าหลายๆ ฝ่าย ทุกสโมสร ก็น่าจะสนับสนุนทีมชาติอยู่แล้ว แต่เขาจะสนับสนุนไปในทิศทางไหนมากกว่า ผมก็อยากให้ฟุตบอลไทยไปให้ไกลอยู่แล้วครับ ผมก็คงไม่พอใจอยู่แล้วที่ใครจะมาต่อว่าฟุตบอลไทย
คือผม ในฐานะที่ยังเล่นอยู่ ผมไม่สามารถอยู่ๆ จะมาวิจารณ์อันนู้นอันนี้ได้ ผมไม่ใช่โค้ช ผมเป็นผู้เล่น กับผมอาจจะเป็นในฐานะกัปตันทีม ที่แบบเราก็ต้องเล่น ต้องซ้อมให้น้องดู นั่นมันคือสิ่งสำคัญที่ผมต้องทำ แล้วก็ ฟุตบอลจริงๆแล้ว ถ้าพูดถึงผลการแข่งขัน ผลการแข่งขันสำคัญที่สุดอยู่แล้ว รองลงมาก็เป็นฟอร์มการเล่น ถามว่าต่อให้คุณเล่นดีมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณแพ้ สุดท้ายก็โดนด่าอยู่ดี แต่ถ้าคุณเล่นไม่ดี แต่คุณชนะ สุดท้ายมันก็ได้ผลการแข่งขันที่ดี สุดท้ายมันไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้
แต่เราไม่ได้มองแค่ เล่นวันนี้ แต่เรามองว่า ทำอย่างไรให้มีนักฟุตบอลที่เก่งเยอะๆ เพื่อที่จะไปสู้กับระดับเอเชียได้ ในอาเซียน เราไม่ได้มองข้ามหรอก แต่เราก็ต้องชนะพวกเขา ต่อให้จะเล่นไม่ดี แต่เราต้องชนะไว้ก่อน แล้วก็ไปสู้กับเอเชีย ซึ่งเอเชียมันยากกว่าเยอะ ความเขี้ยว นักฟุตบอล ความแข็งแรงของร่างกาย ระบบของพวกเขา คือมันไม่ใช่ สไตล์แบบอาเซียนที่จะมาแบบจะวิ่งใส่อย่างเดียว คือมันมีอะไรมากกว่านั้น แล้วก็หลายๆฝ่าย เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ ทั้ง กกท.เอง หรือว่าผู้ใหญ่แต่ละคน ตอนนี้ อยากให้พยายามช่วยสนับสนุนฟุตบอลไทยให้มากกว่านี้มากกว่า ตอนนี้ผมว่า จะพูดอย่างไรดี มันก็ไม่ค่อยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเท่าไร ผมคิดว่านะ เพราะว่า ก็ตามนั้นล่ะ ที่เรารู้กัน
ในฐานะที่ผ่านฟุตบอลเยาวชนมา แล้วก็เรื่องการเก็บตัวเราก็ยังไม่ได้ทำโครงสร้างระยะยาว แต่ผลงานในยุคก่อนมันจับต้องได้บ้าง แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ในมุมมองของคนเล่นที่ฟุตบอลเยาวชนมาก่อน
ต้องพูดอย่างนี้ดีกว่า เมื่อก่อนทรัพยากร เขาเรียกว่าไรอ่ะ สิ่งสภาพแวดล้อมพี่ พวกผมตอนนั้นมองแทบไม่เห็นเงินเดือนด้วยซ้ำ ตอนที่เล่นเป็นเยาวชน แต่เราอยากเล่น เราอยากเล่นเพื่อชาติ แล้วก็ คือ ผมบอกเลยเมื่อก่อน โค้ชสมัยก่อน เขาจับวิ่งอย่างเดียว ถูกไหม อันนี้คือพูดตรงๆ สุดท้ายแล้วพวกผมยังสู้ได้เลย
แต่ตอนนี้ น้องๆ มีทั้งทรัพยากรที่ดีกว่า มีเทคโนโลยีที่ดีกว่า สุดท้ายแล้ว ผลการแข่งขันมันต้องดีตามไปด้วย มีการเก็บตัวที่นานกว่า ผมว่าผลการแข่งขัน ต้องดีไปด้วย มันก็เลยต่างกัน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชียร์นะ ผมก็เชียร์และให้กำลังใจ แต่ผมว่า เราต้องพยายามคิดให้มันมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้ ที่อยากจะเล่นฟุตบอล การที่เราไปเล่นให้ทีมชาติ
ซึ่งน้องอาจจะแบบ ถึงวันหนึ่ง เยาวชนทีมชาติเล่นได้ถึง 23 ปี แต่หลังจาก 23 ปีน้องอาจจะไม่ติดอีกเลย ผมอยากให้คิดแค่นั้นล่ะ เพราะว่าน้องอาจจะเก่งแค่ตอนติดแค่ 12 ปี 14 ปี 16 ปี แล้วก็มา 20 ปีหรือ 19 ปี แต่วันหนึ่งน้องไม่สามารถไปต่อได้ สุดท้ายน้องก็ต้องอยู่ที่เดิม แล้วคนก็จะลืมชื่อ ผมอยากให้มองภาพตรงนี้ไว้ว่าเราเล่นฟุตบอลเพื่อชาติ เราไม่ได้มาเล่น ไม่ได้เอาผลอ่ะ คือมันต้องเสียสละ ประมาณนั้นครับ
