ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อคืนที่ผ่านมา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลชนะ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 จากการทำประตูของเวอร์จิล ฟาน ไดจค์ นาทีที่ 73 และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 77 พร้อมฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นหลังมีโอกาสยิงถึง 15 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 6 ครั้ง และผ่านบอลแม่นยำกว่า 83%
แต่มีหนึ่งจังหวะในช่วงครึ่งหลังที่ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าลิเวอร์พูลโดนริบประตู เนื่องจากวีเออาร์แจ้งว่า ดิโอโก้ โจต้า กองหน้าอีกรายของฝั่งหงส์แดงทำฟาวล์ใส่แม็กซ์ คิลแมนก่อนที่นูนเญซจะยิงประตู
"คล็อปป์" ยังเชื่อลิเวอร์พูลสร้างปาฎิหาริย์จบท็อป 4
“ต้องให้เวลา” เทน ฮาก อัปเดตอาการบาดเจ็บ “มาร์กซิยาล”
ซึ่งต่อมาลิเวอร์พูลก็บุกต่อเรื่อย ๆ จนยิงได้ 2 ลูก พาทีมคว้า 3 แต้ม ยึดอันดับ 6 ของตารางมาครองได้สำเร็จ
หลังเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ออกมาชื่นชมปฏิกิริยาของลูกทีมหลังโดนริบประตูพร้อมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินให้ฟาวล์โจต้า คล็อปป์กล่าวว่า “ผมไปดู (จังหวะที่โจต้าฟาวล์) มาแล้ว และผมไม่คิดว่ามันเป็นการทำฟาวล์ เหตุการณ์ในจังหวะที่ผู้ตัดสินดูมันเหมือนจะฟาวล์นะ แต่ปฏิกิริยาของลูกทีมผมมันสำคัญกว่า”
คล็อปป์กล่าวต่อ “บรรยากาศในค่ำคืนนี้นี่แหละที่พวกเราต้องการ ยอดเยี่ยมจริง ๆ ผมคิดว่าการโฟกัสตลอด 90 นาทีคือสิ่งสำคัญ แต่ในครึ่งแรก แม้เราจะยังทำประตูไม่ได้ แต่เราก็แสดงฟอร์มการเล่นที่ดีออกมา เราเล่นในแบบที่เราต้องเล่น แม้เราจะไม่ได้สร้างโอกาสได้มากขนาดนั้น แต่ลูกโหม่งของ (ฮาร์วี่ย์) เอลเลียตต์ที่แม้จะโหม่งพลาด แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี”
จากนั้นคล็อปป์ก็พูดถึงจังหวะดูวีเออาร์ที่ตัดสินให้โจต้าฟาวล์อีกครั้งว่า “ผมคิดว่าพวกคุณเห็นประตู (ที่ถูกริบจากการตัดสินของวีเออาร์) มาสองสามครั้งแล้ว และเมื่อดูแบบสโลว์โมชัน คุณอาจจะมองว่ามันฟาวล์ แต่ผมก็ยังคิดว่านั่นควรเป็นประตูอยู่ดี แต่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วล่ะ”
“ซึ่งผมก็ไม่กังวลหรอก พอเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเหล่านักเตะหลังโดนริบประตูไป เพราะพวกเขาสู้ต่อและบีบคู่แข่งจนทำประตูได้ ซึ่งมันเป็นปฏิกิริยาที่ดีมาก ๆ จังหวะโต้กลับและจ่ายบอลก็สมบูรณ์แบบ พร้อมทำคลีนชีตได้อีกด้วย มันเป็นผลดีสำหรับพวกเรา ดีทั้งหมดจริง ๆ”