ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-2023 นัดตกค้าง "ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี
เกมนี้ เอริก เทน ฮาก ที่ต้องการอีกเพียงแต้มเดียวเพื่อไปเล่นถ้วยใหญ่ของยุโรปได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หายป่วยกลับมามีชื่อที่ม้านั่งสำรอง ส่วนเชลซี ที่เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บอยู่มากและจบอันดับ 12 แน่นอนแล้ว มี ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงยืนในแนวรุก
คาดการณ์ 11 ตัวจริง พรีเมียร์ลีก แมนยู-เชลซี
"เทน ฮาก" ไม่ปฎิเสธ "แมนยู" สนใจ "เนย์มาร์"
เริ่มเกมเพียง 6 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 เป็นจังหวะฟรีคิกทางซ้าย เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ประกบไม่ดีปล่อยให้ กาเซมีโร่ โหม่งเข้าไป
หลังจากนั้นกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมาได้ประตูเพิ่มต้องรอถึงช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาที 45+5 กาเซมีโร่ ยกบอลมาให้ เจดอน ซานโช่ หลุดเข้าเขตโทษทางขวาก่อนปาดไปเสาไกล อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยิงจ่อๆ ไม่เหลือ ครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 2-0
กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 73 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษ เป็นจังหวะที่ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ไปพลาดท่าเสียทำฟาวล์บรูโน่ แฟร์นานด์ส ในกรอบก่อนที่ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสจะลุกมาสังหารเองไม่พลาด เจ้าถิ่น นำห่าง 3-0
นาทีที่ 78 แมนฯ ยูไนเต็ด นำเป็น 4-0 จังหวะนี้แนวรับเชลซี พลาดหน้าประตูตัวเองก่อนโดน มาร์คัส แรชฟอร์ด ตัวสำรองยิงเข้าไป
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว เชลซี มาได้ประตูตีไข่แตกเป็นประตูปลอบใจจาก ชูเอา เฟลิกซ์ ตัวสำรอง จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 4-1คว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าเรียบร้อย โดยมีเพิ่มเป็น 72 คะแนน และรอลุ้นว่าจะจบอันดับ 3 หรือ 4 กับนิวคาสเซิ่ล ในเกมสุดท้าย ที่จะเปิดบ้านพบฟูแล่ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.46) - กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น (เฟร็ด น.70) - อันโตนี่ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.29), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.86), เจดอน ซานโช่ - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.70)
เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูอิส ฮอลล์ - คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.82), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (ดาวิด โฟฟาน่า น.82) - โนนี่ มาดูเอเก้ (ฮาคิม ซิเย็ค น.82), ไค ฮาแวร์ตซ์ (ชูเอา เฟลิกซ์ น.64), มิไคโล มูดริค (คริสเตียน พูลิซิช น.64)
