การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 "ปารีสเกมส์ 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีพิธีปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 สิงหาคม 2567 ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ สนามกีฬาแห่งชาติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มตั้งแต่เวลา 02.00 น.ตามเวลาประเทศไทย (เช้าวันที่ 12 ส.ค.)
พิธีปิดการแข่งขันจะใช้ชื่อว่า "Records" โดย โทมัส จอลลี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ จะพาผู้ชมเข้าสู่การเดินทางข้ามกาลเวลาที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันในแนววิทยาศาสตร์
โดยพิธีครั้งนี้ จะเริ่มต้นจากจุดกำเนิดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและจะมุ่งไปสู่โลกอนาคตที่เลวร้ายเมื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหายไปและต้องมีการคิดค้นขึ้นใหม่
สำหรับพิธีการรับธงเจ้าภาพนั้น คาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีเมืองลอสแองเจลิส จะรับธงโอลิมปิกต่อจาก อานน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีเมืองปารีส
ส่วน โอลิมปิกเกมส์ 2028 จะจัดขึ้นที่เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา หรือ "ลอสแอนเจลิส 2028" ระหว่างวันที่ 14 - 30 กรกฏาคม 2028
โดยตั้งแต่เวลา 02.00 น. เข้าสู่พิธีปิดอย่างเป็นทางการ โอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 คณะนักร้องประสานเสียงจาก Académie Haendel-Hendrix ร้องเพลง Sous le ciel de Paris (ใต้ท้องฟ้ากรุงปารีส) ของ Édith Piaf ตรงบริรเวณ Jardins des Tuileries (สวนตุยเลอรีส์) จุดคบเพลิงบอลลูนกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ต่อมา เลออง มาร์ชองด์ นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศสเหรียญทองโอลิมปิก 2024 เป็นผู้นำแสงไฟในคบเพลิง ถูกดับจาก บอลลูนลอยฟ้า และกำลังเดินทางไปที่สนาม สตาด เดอ ฟรองซ์ สถานที่จัดพิธีปิดอย่างเป็นทางการ
ขบวนพาเหรดนักกีฬาจาก 205 ชาติเข้าสู่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ โดยไม่เรียงตัวอักษร เพื่อสื่อถึงความไม่แบ่งแยก โดยแต่ละชาติจะมีนักกีฬาตัวแทน 2 คน แบ่งเป็นชายหนึ่งและหญิงหนึ่งคน จะเดินเข้ามาสู่กลางสนาม
ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย เดินร่วมขบวนพาเหรดทัพนักกีฬาจาก 205 ชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ เดินเข้าสู่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ โดยนักกีฬาจะร้องเต้นอย่างสนุกสนานตามคอนเซ็ปต์ของช่วงพิธีปิดที่เรียกว่า ATHLETES KARAOKE กับเพลงดังของฝรั่งเศส Les Champs-Élysées ของ Joe Dassin ต่อด้วยเพลง We Are The Champions ของวง Queen
โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และ ลอร์ด เซบาสเตียน โคประธานกรีฑาโลก ร่วมพิธีมอบเหรียญรางวัลมาราธอนหญิงให้กับ ซีฟาน ฮัสซัน ปอดเหล็กทีมชาติเนเธอร์แลนด์เชื้อสายเอธิโอเปีย หลังคว้าเหรียญทองวิ่งมาราธอนหญิงโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ส่วนเหรียญเงิน ทิกสต์ อัสเซฟา จากเอธิโอเปีย และเหรียญทองแดง เฮลเลน โอบิรี จากเคนยา
เข้าสู่ช่วงพิธีการ โดยพิธีปิดการแข่งขันจะใช้ชื่อว่า "Records" โดย โทมัส จอลลี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ จะพาผู้ชมเข้าสู่การเดินทางข้ามกาลเวลาที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันในแนววิทยาศาสตร์ โดยได้สร้างตัวละครอ้างอิงหลายเรื่องราวของฝรั่งเศสเรียกว่า Golden Voyager (นักเดินทางทองคำ) เดินทางมาสำรวจโลกใบนี้ และการปรากฏตัวของชายถือคบเพลิงปกคลุมหน้าตา และ นักขี่ม้าหญิง จากพิธีเปิดการแข่งขัน ได้มอบธงชาติกรีซให้ Golden Voyager เดินทางต่อ จากนั้นเทพีไนกี เทพแห่งชัยชนะ ที่เป็นรูปปั้นปรากฏตัว
ต่อด้วยการแสดงของ นักแสดง นักกายกรรม นักเต้น และศิลปินละครสัตว์มากกว่า 100 คนจะร่วมแสดงดนตรีกับนักร้องชื่อดังระดับโลก ส่วนหนึ่งของการแสดงจะจัดแสดงบนอากาศ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์แสงอันตระการตาและเครื่องแต่งกายสไตล์ฝรั่งเศส
เล่าเรื่องราว Golden Voyager (นักเดินทางทองคำ) เดินทางมาที่โลกในอนาคตที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้หายไป บรรยากาศมันช่างมืดมน จากนั้นได้ค้นพบวงแหวนโอลิมปิก และทำการตั้งวงแหวนโอลิมปิกขึ้นมา เพื่อให้โลกใหม่ได้รู้จักกีฬาโอลิมปิก พร้อมกับการบรรเลงเปียโนที่ถูกแขวนเป็นแนวตั้งจาก Alain Roche ขณะที่ Benjamin Bernheim นักร้องโอเปร่าชาวฝรั่งเศส ร้องเพลง The Hymn to Apollo (เพลงสรรเสริญเทพอะพอลโล)
Phoenix วงดนตรีส่วนผสมระหว่างวงป็อปอินดี้และดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังของฝรั่งเศส ที่โลดเล่นบนเส้นทางดนตรีมากว่า 25 ปี พร้อมด้วยศิลปินหญิงจากเบลเยียม ร่วมขับร้อง ก่อนที่จะต่อด้วยการแสดงของ วัณณ์ฎา (VannDa) เป็นแร็ปเปอร์ชาวกัมพูชา
สำหรับพิธีการส่งมอบธงโอลิมปิกเจ้าภาพนั้น เริ่มด้วย โตนี่ เอสตองเกต์ ประธานจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ต่อใหักับ อานน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีเมืองปารีส ตามด้วย โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ส่งต่อให้ คาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีเมืองลอสแองเจลิส
จากนั้นเป็นการขับร้องเพลงชาติสหรัฐอเมริกา โดย H.E.R. (เฮอร์) นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลแกรมมี่
ทอม ครูซ นักแสดงฮอลลีวูด วัย 62 ปี แสดงฉากผาดโผนสุดอลังการ ด้วยการโรยตัวลงมาจากสนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ นำธงโอลิมปิกจากกรุงปารีส ด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์ขับออกจากสนาม พร้อมกับเพลง By the way ของ Red hot chilli pepper ขึ้นเครื่องบินไปยังลอสแอนเจลิส วิ่งไปส่งธงต่อให้กับ เคท คอร์ทนี่ย์ นักปั่นเสือภูเขาไปที่ป้ายฮอลลีวูดอันโด่งดังไปที่ ลอสแองเจลิส เมมโมรี มิวเซียม ส่งต่อให้นักกีฬาสเก็ตบอร์ด เมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2028
จาก Red Hot Chili Peppers ต่อด้วย Billie Eilish และมาถึงโชว์สุดพิเศษจากแรปเปอร์ระดับโลกอย่าง Snoop Dogg กับเพลงฮิต The Next Episode
เลออง มาร์ชองด์ นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศสเจ้าของ 4 เหรียญทองโอลิมปิก 2024 ถือคบเพลิงในโคมไฟขนาดเล็กจากบอลลูนเข้าสู่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ พร้อมด้วย โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และตัวแทนนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลปารีสเกมส์จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 5 ทวีป และสมาชิกทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยอีก 1 คน ช่วยกันเป่าเพื่อดับไฟเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีดับไฟคบเพลิง
และเป็นการส่งต่อให้กับเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2028 จะจัดขึ้นที่เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา หรือ "ลอสแอนเจลิส 2028"
การแสดงสุดท้ายของนักร้องชาวฝรั่งเศส Yseult ขับร้องเพลง "My Way" อันโด่งดังของ Frank Sinatra และแต่งโดยนักประพันธ์เพลงชาวฝรั่งเศส Jacques Revaux และนักแต่งเนื้อเพลงชาวฝรั่งเศส Gilles Thibaut และ Claude François หลังจากเพลงจบมีดอกไม้ไฟทั่วสนาม สต๊าด เดอ ฟร้องซ์