นโยบายเด็ก! เจาะลึกเชลซีกำลังเดินตามรอยอาแจ็กซ์โมเดล ฤดูกาล 94-95

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เชลซีกำลังสร้างทีมเด็ก! เจาะลึกอาแจ็กซ์โมเดลฉบับเชลซี ที่ผูกมัดดาวรุ่งด้วยสัญญาโคตรยาว เพื่อทำสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มา 30 ปี

เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กำลังเดินหน้าทำตามนโยบายการสร้างทีมที่อายุน้อยที่สุดในยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีสโมสรไหนทำสำเร็จ และคว้าแชมป์ใหญ่ได้เลย นับตั้งแต่ทีม อาแจ็กซ์ ยุคทองปี 1995 ที่สร้างประวัติศาสตร์เอาไว้ 

แม้ว่าอาแจ็กซ์ในปัจจุบันจะห่างไกลจากทีมที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้คือหลักฐานชั้นดีว่า การเชื่อมั่นในผู้เล่นอายุน้อย สามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจ แล้วก็สามารถคว้าแชมป์ได้เหมือนกัน

บรรดานักเตะวัยรุ่นของเชลซี Reuters/John Sibley
บรรดานักเตะวัยรุ่นของเชลซี

อาแจ็กซ์คือเจ้าของสถิติทีมที่ อายุน้อยที่สุด ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จ จากทีมชุดปี 1994-95 ที่สร้างความตื่นตะลึงด้วยการเอาชนะ เอซี มิลาน 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ อายุเฉลี่ยของ 11 ตัวจริงในวันนั้นคือ 24 ปี 364 วัน
แพทริค ไคลเวิร์ต ผู้ทำประตูชัย มีอายุเพียง 18 ปี 327 วัน ตอนที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง

และเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าตลอด 30 ฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่มีทีมไหนเข้าใกล้การทาบสถิติดังกล่าวได้เลย แม้แต่ เปแอสเช ที่ได้แชมป์ยุโรปปีล่าสุด เป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดในรอบทศวรรษ แต่โดยรวมแล้ว ทีมแชมป์ยุโรปตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 28 ปี
นี่คือสิ่งที่เน้นย้ำความแตกต่าง ทีมอาแจ็กซ์ชุดแชมป์มีผู้เล่นที่อายุเกิน 30 ปี เพียงแค่สองคน (แดนนี่ บลินด์ และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด) ซึ่งแตกต่างจากเชลซีในชุดนี้ที่ผู้เล่นอายุประมาณ 30 แทบจะไม่มีเลย โดย โทซิน อดาราบิโอโย่ (วัย 28 ปี) เป็นผู้เล่นคนแรกที่อายุ 28 ปีขึ้นไป ที่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า

โทซินพูดถึงความรู้สึกตัวเองว่า "ผมคงไม่เรียกตัวเองว่าผมเป็นนักเตะที่แก่ ทั้ง ๆ ที่ผมอายุแค่ 28 นะครับ แต่นี่เป็นทีมที่อายุน้อยมากจริง ๆ ผมรู้สึกว่า 28 ปี เป็นวัยที่กำลังพีค และยังมีเส้นทางอีกยาวไกล ตราบใดที่คุณเล่นในระดับสูงและทำผลงานได้ดี ผมคิดว่าอายุอาจจะไม่สำคัญ"
อาแจ็กซ์มีชื่อเสียงจากการเป็นโรงงานผลิตดาวรุ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่เติบโตมาจากระบบเยาวชนของสโมสรเอง ก่อนจะถูกขายออกไปทำกำไรมหาศาล แต่ปรัชญาของเชลซีนั้นต่างออกไป…

ปรัชญาของเชลซีคือ พวกเขาเลือกที่จะ ทุ่มเงินซื้อ ดาวรุ่งพรสวรรค์ที่ดีที่สุดจากทั่วโลกเข้ามา แต่มีแนวคิดคือ "เก็บ" ผู้เล่นเหล่านั้นเอาไว้ เพื่อสร้างทีมที่สามารถเข้าชิงและคว้าแชมป์ใหญ่ให้ได้หลาย ๆ ครั้ง

อย่างไรก็ดี เชลซีเองมีข้อได้เปรียบที่อาแจ็กซ์ในอดีตไม่มี นั่นคือการมีสโมสรพันธมิตรอย่าง สตราส์บูร์ก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงสำหรับดาวรุ่งที่ยังไม่พร้อมสำหรับพรีเมียร์ลีก สตราส์บูร์กถือเป็นสโมสรที่ให้โอกาสลงสนามกับผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปี มากกว่าสโมสรใด ๆ ในยุโรป ทำให้ดาวรุ่งอย่าง มามาดู ซาร์ (วัย 20 ปี) ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนกลับสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ความมุ่งมั่นนี้ถูกตอกย้ำด้วยรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล โกลเดน บอย (ผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปีที่ดีที่สุดในลีกยุโรป) โดยมีผู้เล่นที่อยู่กับเชลซี หรือกำลังจะย้ายมาร่วมทีม ถึงสี่คน ขณะที่คู่แข่งอย่าง เปแอสเช และ เรอัล มาดริด มีผู้เล่นเข้าชิงเพียงทีมละสามคนเท่านั้น

ในทีมปัจจุบัน มีดาวรุ่งอย่าง ยอร์เรล ฮาโต้ กองหลังวัย 19 ปี ที่ย้ายมาจากอาแจ็กซ์ในช่วงซัมเมอร์ และ เอสเตเวา วิลเลียน วัย 18 ปี ที่ถูกยกให้เป็นดาวรุ่งพรสวรรค์ ซึ่งทำประตูให้กับเชลซีและทีมชาติบราซิลไปแล้วในฤดูกาลนี้

โดยหนึ่งในเคล็ดลับที่เป็นไม้เด็ดเลยคือการซื้อดาวรุ่งค่าตัวแพง ๆ แต่ให้สัญญากับพวกเขาในระยะยาว ที่หมายถึง 5 ปีขึ้นไป ไล่ตั้งแต่ ยอร์เรล ฮาโต้ 7 ปี, เอสเตเวา วิลเลี่ยน 8 ปี, มาโล กุสโต้ เซ็น 7.5 ปี, ไกเซโด้ 8 ปี หรือจะเป็นเลียม ดีแลป 6 ปี 

โคล พาลเมอร์เองก็เพิ่งต่อสัญญาออกไปอีก 9 ปี เรียกง่ายๆว่ามีนักเตะที่อยู่เกินปี 2030 อีกบานเบอะสำหรับทัพเชลซี ซึ่งโมเดลนี้ทางท็อดด์ โบลี่ และคณะบริหารเองก็นำมาจากโมเดลการทำทีมเบสบอลในสหรัฐอเมริกา เพราะโดยเฉลี่ยแล้วนั้นทางฝั่งเบสบอลมักจะมอบสัญญาให้ผู้เล่นในระยะยาวกว่าวงการฟุตบอล บางทีมอาจให้สัญญาผู้เล่น เป็น 10 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

การสร้างทีมของเชลซีในวันนี้ จึงเป็นมากกว่าการซื้อขายนักเตะ แต่เป็นการ ปฏิวัติโครงสร้างระยะยาว ที่มีรากฐานมาจากโมเดลธุรกิจของกีฬาเบสบอลในสหรัฐอเมริกา โดย ท็อดด์ โบลี่ และคณะบริหาร

การที่นักเตะดาวรุ่งอย่าง ยอร์เรล ฮาโต้, เอสเตเวา วิลเลียน, หรือ มาร์โล กุสโต้ ได้รับ สัญญาระยะยาวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป จนถึง 8-9 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะผูกมัดผู้เล่นเหล่านี้ให้เป็น แกนหลักของสโมสรไปจนถึงปี 2030 และหลังจากนั้น

ปรัชญาการผูกมัดผู้เล่นด้วยสัญญาที่ยาวนานนี้ ทำให้เชลซีสามารถควบคุมเสถียรภาพทางการเงินและสามารถพัฒนาผู้เล่นกลุ่มเดิมร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากอาแจ็กซ์ในอดีตที่มักจะต้องเสียผู้เล่นชุดแชมป์ไปอย่างรวดเร็วเพื่อแลกกับกำไร

แม้ว่าการเป็นทีมวัยรุ่นจะนำมาซึ่งปัญหาด้านวินัยและฟอร์มการเล่นที่ขึ้น ๆ ลง ๆ (อย่างที่เห็นจากจำนวนใบแดงของทัพสิงห์บลูส์) แต่เชลซีเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผู้เล่นขาดไปคือ "ประสบการณ์ตามอายุ" แต่พวกเขาชดเชยด้วย "จำนวนเกมในระดับสูง" ที่ลงเล่นไปแล้ว

หลักฐานของความพยายามนี้เริ่มปรากฏแล้ว เพราะฤดูกาลที่แล้วเชลซีก็เป็น ทีมอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่สามารถจบในอันดับ Top 4 และคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จ

ดังนั้น การตัดสินใจของเชลซีจึงชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้แค่ต้องการ "แชมป์ครั้งเดียว" เหมือนทีมอาแจ็กซ์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่กำลังมุ่งหน้าสู่การสร้างทีมที่มีความต่อเนื่องและมั่นคง โดยมีกลุ่มผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด ผูกพันกับสโมสรไปอีกยาวนาน และพร้อมที่จะท้าทายสถิติอายุเฉลี่ยแชมป์ยุโรปที่ไม่มีใครเคยทำลายได้มาตลอดสามทศวรรษ นี่คือเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดของเชลซีในยุคใหม่ ที่จะตัดสินอนาคตของสโมสร…
 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ