โดย อิตาลี พลาดไปฟุตบอลโลกในรอบ 60 ปี จนทำให้ จานลุยจิ บุฟฟ่อน แข้งระดับตำนานกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮกลางอากาศ เพราะนี่คือการลงเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายของเค้านั่นเอง แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬา ที่ต้องแข่งขัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนุ่มในฝันของสาวๆ และพี่ปราย ก็เคยผ่านความเจ็บช้ำ มาแล้วหลังพลาดแชมป์ยูโร 2004 ด้วยการแพ้กรีซ ทีมรองบ่อน 1-0 ประตู ซึ่งในตอนนั้น โด้ วัยหนุ่มที่ยังใส่ตุ้มหูเงินลงแข่ง ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ปล่อยโฮมันกลางสนามนั่นแหละ จนเพื่อนๆ ละทีมสต๊าฟโค้ชต้องเข้ามาปลอบกันยกใหญ่
ทั้งนี้ มาริโอ บาโลเตลลี่ แข้งยอดเกรียนของอิตาลี ถึงภาพลักษณ์จะเป็นคนเกรียนเซียนแต่เรื่องตลก แต่เค้าเคยเสียน้ำตากลางสนามหญ้ามาแล้ว เพราะ ไม่สามารถช่วย อิตาลี คว้าแชมป์ยูโร ปี 2012 ได้ เพราะแพ้สเปน ราบคาบไป 0-4 ประตู
และถ้าหาก ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดรองสุดท้าย หลุยส์ ซัวเรซ ที่เคยไล่กัดคอชาวบ้านชาวช่อง ก็กลายเป็น ซัวเรซ เจ้าน้ำตา หลังลิเวอร์พูล ถูก คริสตัล พาเลซ ยิงคืน 3 ลูกรวด ตีเสมอ 3-3 ประตู ทำให้โอกาส ลุ้นแชมป์ของหงส์แดงนั้นค่อยๆ สลายหายไปตรงหน้า ด้านซัวเรซ ที่รู้ตัวว่าพลาดแชมป์แน่ปล่อยโฮอย่างหนัก ดึงเสื้อขึ้นปิดตา ประมาณว่าอย่ามายุ่ง ซึ่งเจอร์ราร์ดเข้ามาปลอบก็ยังไม่หยุด จน โคโล่ ตูเร่ ต้องมาช่วยปลอบประโลม พาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
ขณะที่ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังหัวฟู จอมกวนของเชลซี ก็เคยบ่อน้ำตาแตก ทันทีที่สื่อเข้าประชิดสัมภาษณ์ หลังเกม ที่บราซิล ถูกเยอรมนี รัวกระสุน อัดไป 7-1 ประตู จนทำให้ บราซิล ร่วงฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ ปี 2014 ต่อหน้าแฟนๆ ในบ้าน เป็นการตกรอบที่น่าเจ็บใจมากเช่นกัน จนเจ้าตัวไม่อยากจะพูดกับใครเลย ณ จุดๆนั้น
นอกจากนี้ปิดท้ายที่ ลีโอเนล เมสซี่ ยอดซุปตาร์ลูกหนังที่ปวดใจ เพราะพลาดแชมป์โคปาอเมริกาปีก่อน ปล่อยอารมณ์เจ็บช้ำให้น้ำตาไหลริน ทำเอานักเตะทีมชาติชิลีผู้ชนะ ถึงกับอินเดินเข้ามาปลอบก็แทบจะร้องตามไปด้วย ทั้งนี้ เมสซี่ ไม่เพียงแต่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังประกาศเลิกเล่นทีมชาติทันที ทำเอาแฟนๆ ช็อกกันทั้งโลก แต่สุดท้ายก็หวนกลับมารับใช้ทีมชาติ จนพาเข้ารอบฟุตบอลโลกในปีนี้เหมือนเดิม
