ภารกิจว่ายน้ำข้ามโขงของนักร้องนักแสดงหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน” สำเร็จกันไปแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยแห่งความประทับใจของคนไทย-ลาวเอาไว้อยู่ ใครที่อยากไปที่เที่ยวตามรอย แนะนำ 10 จุดเช็กอินนี้เลย!
“นครพนม” อีกหนึ่งจังหวัดที่น่าเที่ยวในภาคอีสาน เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ที่สำคัญยังเป็นดินแดนที่ประดิษฐานของพระธาตุพนมปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมือง และพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วันด้วย อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังแต่งแต้มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังคงงดงาม จนทำให้ผู้คนให้คำจำกัดความของนครพนมว่า “เมืองแห่งความสุข”
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักร้องและนักแสดงหนุ่ม “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง
ภารกิจสำเร็จ “โตโน่ ภาคิน” ว่ายน้ำถึงฝั่งไทยอย่างปลอดภัย
ความตั้งใจ “โตโน่” ที่คุ้มค่า พร้อมเคลียร์ข้อสงสัย ทำไมไม่เอาเงินตัวเองบริจาค
ไปกับโครงการ “One Man and The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้” เพื่อระดมทุนสนับสนุน 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลนครพนมและโรงพยาบาลแขวงคำม่วนด้วย
แต่แหล่งท่องเที่ยวไหนบ้างที่ลัดเลาะริมโขงตามเส้นทางของ “โตโน่” ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มาฝากทุกคนกันดังนี้
1.) ลานพญาศรีสัตตนาคราช
ลานพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนมที่ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร ถนนสายสำคัญที่ขนานไปกับแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแด่พญานาคตามความเชื่อเดิม
และด้วยเป็นอนุสาวรีย์ที่มีองค์พญาศรีสัตตนาคราชหล่อด้วยทองเหลืองมีน้ำหนัก 9,000 กิโลกรัม เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร หันหน้าไปทางทิศเหนือ ส่วนหางชี้ไปทางแม่น้ำโขง สามารถพ่นน้ำได้ประดิษฐานบนแท่นฐานแปดเหลี่ยม กว้างประมาณ 6 เมตร ความสูงรวมฐานประมาณ 16 เมตร จึงถือว่าเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน
สำหรับพญาศรีสัตตนาคราช เป็นตระกูลพญานาคที่สืบสายพันธุ์มาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดกับพระพุทธองค์และพระพุทธศาสนามาก รวมถึงมีความสง่างาม เพราะมี 7 เศียรลำตัวเดียว จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือกันว่า หากใครได้มาขอพรหรือบนบานจะสัมฤทธิ์ผล
2.) อุโมงค์จักรยาน นาคราช
อุโมงค์จักรยาน นาคราช เป็นเส้นทางจักรยานที่นักท่องเที่ยวสามารถมาผ่อนคลายปั่นจักรยานเรียบริมน้ำโขง สัมผัสสายลมชื่นชมอารยธรรมเมืองริมฝั่งโขงได้ โดยเส้นทางแห่งนี้ยาวกว่า 70 กิโลเมตรยาวครอบคลุมตั้งแต่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) ไปจนถึงบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง “ลานพญาศรีสัตตนาคราช” ด้วย
3.) วัดพระธาตุศรีคุณ
วัดพระธาตุศรีคุณ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอังคาร ตั้งอยู่ตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานพระธาตุศรีคุณที่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2350 และองค์พระธาตุได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2440 ซึ่งลักษณะของพระธาตุนั้น จะคล้ายกับพระธาตุพนม สูง 24 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทิศประจำวันอังคาร
ภายในพระธาตุนั้น จะบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุของพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า และพระสังกัจจายนะ
โดยรอบองค์พระธาตุทั้ง 4 ด้านนั้น จะมีพระพุทธรูปประทับโดยรอบ เปรียบเสมือนป้อมปราการคอยปกป้องรักษาพระสารีริกธาตุ รวมถึงมีพระพุทธรูปสี่ด้านเป็นทหารยาม
ตามตำนานของพระธาตุองค์นี้ มีกษัตริย์นักรบเป็นผู้ก่อสร้าง ตรงกับลักษณะของคนที่เกิดวันอังคาร ซึ่งจะเป็นนักต่อสู้ มีน้ำอดน้ำทน เชื่อกันว่าหากใครได้ไปสักการะจะได้อานิสงส์ เสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็งขึ้น
4.) พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการ (หลังเก่า)
ใครที่อยากรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองนครพนม พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการ (หลังเก่า) ที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร แห่งนี้นับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด นอกจากจะมีโซนจัดแสดงนิทรรศการประวัติของเมืองแห่งความสุขมากกว่า 10 โซนแล้ว อาคารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังสวยงามตามแบบฉบับตะวันตก โดยได้รับอิทธิพลการก่อสร้างสถาปัตยกรรมมาจากฝรั่งเศส ในสมัยสงครามอินโดจีน ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูลายปูนปั้น หรือการแกะสลักเสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นับเป็นจุดที่ต้องไปถ่ายรูปกัน
5.) วัดนักบุญอันนา หนองแสง
โบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่และสวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร ด้วยอาคารหลังนี้มีสถาปัตยกรรมแบบโคโรเนียลก่อด้วยอิฐปูนภายนอกสีเหลือง เมื่อสะท้อนกับแสงแดดให้ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเป็นสัญสักษณ์ของเมืองที่มีหลากหลายเชื้อชาติมาอาศัยอยู่รวมกัน เช่น คนญวน คนไทย คนจีน และคนลาวเป็นต้น เป็นที่มาให้จุดนี้เป็นแลนด์มารก์สำคัญที่ต้องมาถ่ายรูปกัน
เดิมด้านข้างของตัวอาคารนี้เป็นโบสถ์ประกอบพิธีทางศาสนา แต่ในสมัยกรณีพิพาทอินโดจีน ถูกฝรั่งเศสทิ้งระเบิดถล่มเมืองนครพนม ทำให้โบสถ์พังเสียหาย ต่อมาจึงมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์และใช้สืบต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน
โดยมีไฮไลต์กิจกรรมที่สำคัญคือก่อนช่วงวันคริสต์มาส ชาวคริสต์แต่ละชุมชนในจังหวัดนครพนม จะประดิษฐ์ดาวรูปแบบต่าง ๆ แล้วแห่มารวมกันไว้ที่นี่ หากใครได้ไปเยี่ยมชมโบสถ์แห่งนี้ในช่วงเวลาแบบนี้ ยิ่งได้เก็บภาพบรรยากาศแบบสวย ๆ ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
6.) หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ อีกหนึ่งสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2458 โดยตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) มาก่อน
ด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารที่น่าสนใจ คือ เป็นอาคารผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ในรูปแบบเรอเนสซองส์ ที่ภายในรวบรวมมรดกทางปัญญาที่หาได้ยากจำนวนมากมาย ทั้งหนังสือ สิ่งพิมพ์ จารึก คัมภีร์ใบลาน รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัยของอาจารย์และบุคคลทั่วไปในจังหวัด และยังเป็นศูนย์รวบรวม อนุรักษ์ และเผยแพร่ทรัพย์สินทางปัญญาของท้องถิ่น ทำให้สถานที่แห่งนี้มีผู้คนมากมายเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมและมีสายถ่ายภาพเข้าไปจำนวนมาก
7.) ถนนคนเดินนครพนม
ถนนคนเดินนครพนม ตั้งอยู่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราชไปสิ้นสุดที่หอนาฬิกาประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไม่ยาวมากนัก ตลอดทางจะมีทั้งอาหารเครื่องดื่มขายมากมายหลายประเภท และมีร้านขายสินค้าท้องถิ่นจำนวนมากให้คนที่มาเดินได้จับจ่ายซื้อของกินหรือสินค้าท้องถิ่นทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.
8.) ร้านเคียงโขงปลาจุ่ม
เมนูเด็ดที่ต้องกินเมื่อไปเยือนนครพนมแล้วคือ “ปลาจุ่มแม่น้ำโขง” สำหรับปลาจุ่ม จะมีหน้าตาคล้ายสุกี้ผสมแจ่วฮ้อน หากได้กินปลาเผาสดๆ แล่มาบางพอดีคำ ตามด้วยผักนานาชนิด ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำซุปรสกลมกล่อม หลายคนที่ได้ลิ้มลองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยฟินจนบอกไม่ถูก เป็นที่มาให้เมนูนี้กลายเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม
สำหรับใครที่ไม่รู้จะไปกินเมนูนี้ได้ที่ไหนดี ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีเคยได้ไปชิมที่ร้านเคียงโขงปลาจุ่ม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครพนม บอกเลยว่ารสชาติดีจนต้องมาแนะนำให้ไปลองกัน
9.) กาแฟสดรถตู้
อิ่มท้องกันไปด้วยเมนูขึ้นชื่อประจำจังหวัดกันไปแล้ว ก็ต้องตบท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่ม ร้าน “กาแฟสดรถตู้” นับเป็นหนึ่งในร้านเครื่องดื่มที่น่าไปลอง ไม่จำกัดเฉพาะสายกาแฟเท่านั้นที่จะดื่มได้ ร้านนียังมีเมนูอื่นให้เลือก เช่น ชาเย็น ชาเขียว ชามะนาว น้ำบ๊วย โอเลี้ยง หรือโอวัลติน เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลากหลาย
นอกจากรสชาติจะดีด้วยแล้ว ด้วยเอกลักษณ์ของร้านที่ดัดแปลงรถตู้วินเทจมาเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ตั้งขายอยู่บริเวณปากซอยอนุศาสตร์ประดิษฐ์ เยื้อง ๆ กับวัดมหาธาตุริมน้ำโขง ทำให้เหล่านักเดินทางหลายคนต่างแวะเวียนกันมานั่งจิบกาแฟชมวิวริมน้ำโขงกัน
10.) Say sleep café
อีกหนึ่งร้านคาเฟ่น่าสนใจที่ติดริมน้ำโขง คือ “Say sleep cafe” โฮมเมดคาเฟ่สไตล์อาร์ทที่ตกแต่งด้วยภาพงานศิลปะสุดชิคเต็มร้านไปหมด กลายเป็นจุดไม่ควรพลาดที่จะถ่ายภาพเก็บกันเอาไว้ ที่สำคัญเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่ของทางร้านยังเป็นสินค้าโฮมเมดที่ทำเองกับมือ อบกันสด ๆ ร้อน ๆ ในทุกๆ วัน
ทีมข่าวพีพีทีวีเองได้ชิมชาเขียวของที่นี่ เรียกได้ว่า ไม่หวานมาก แต่หอมมัน เมื่อได้ดื่มแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติของชาเขียวที่เข้มข้นตัดกับนมสด กลมกล่อมลงตัวอย่างสุดๆ
ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟซบุ๊ก กาแฟสดรถตู้ และ Say sleep café
รวมที่เที่ยว “อุทยานแห่งชาติ” กางเต็นท์สัมผัสสายหมอก ชมทะเลดาวยามค่ำคืน
5 จุดเช็กอิน “ย่างกุ้ง” ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ชิมอาหารท้องถิ่น