เปิดจุดเช็กอินน่าเที่ยวช่วงวันหยุดพิเศษ “APEC 2022” ชวนคนเมืองหนีรถติดในวันสำคัญระดับนานาชาติไปสูดอากาศบริสุทธิ์ กลางหุบเขาใกล้กรุงเทพฯและปริมณฑล
ใกล้เข้ามาแล้วกับวันหยุดพิเศษระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานราชการใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นนทบุรี และสมุทรปราการ หยุดได้ พร้อมขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่างๆ เน้นทำงานที่บ้าน (Work from Home) เพราะจะมีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเซีย-แปซิฟิกขึ้น (APEC 2022)
แน่นอนว่าเมื่อมีการประชุมสำคัญแบบนี้ การปิดจราจรบางเส้นทางคงหนีไม่พ้น ซึ่งล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประกาศแล้วว่าพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบบ้าง เช็กได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย!!
เช็กเส้นทางปิดถนน-MRT ประชุม APEC2022 16-19 พ.ย.นี้
10 เรื่องต้องรู้ไว้ “ไทยเจ้าภาพประชุมเอเปค APEC 2022 Thailand"
ดังนั้นแล้วใครที่ได้หยุดในวันดังกล่าว ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่เดินทางง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน แถมยังมีบรรยากาศดีๆ ให้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันจนเต็มปอด เหมาะกับวันหนีรถติดแบบนี้ มาฝากกัน
1.) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานเดียวที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัด คือ สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก ด้วยบริเวณที่กว้างใหญ่และมีป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีตลอดทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาที่นี่เพราะเที่ยวได้เยอะ แถมยังได้มาใกล้ชิดธรรมชาติ สูดโอโซนกันให้เต็มปอด
ที่สำคัญในหน้าหนาวนี้ อุณหภูมิที่นี่แค่ 10-14 องศาเท่านั้น ใครที่อยากออกมารับลมหนาวด้วย ต้องมาแล้ว! โดยมีไฮไลต์ที่น่าเที่ยว คือ
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติกองแก้ว มีสะพานข้ามลำธาร และต้นไม้ใหญ่ ให้ได้เดินดูและถ่ายรูปกันตลอดระยะทาง 1.2 กิโลเมตร
- ผาเดียวดาย จุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ซึ่งระหว่างทางมักจะมีสัตว์ป่าออกมาเดินเล่นกันอยู่เป็นประจำด้วย
- น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกที่มีหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถชมบรรยากาศได้ทั้งส่วนที่อยู่บนหน้าผา และบริเวณด้านล่างของน้ำตก ซึ่งจะเป็นแอ่งน้ำและลำธาร ให้สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย
ส่วนใครที่อยากพักในอุทยานด้วย แนะนำที่นี่เลย “ลานกางเต็นท์ลำตะคอง” ลานที่อยู่ติดริมน้ำและถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาที่สูงใหญ่ แถมยังชอบมีกวางมาเดินเล่นอยู่บริเวณนี้ด้วย และยังอยู่ใกล้ผาเดียวดาย พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อจะนอนพักค้างคืน เพราะกลางคืนก็สามารถนอนดูดาวได้ ส่วนยามเช้าก็ออกไปสัมผัสทะเลหมอกได้ใกล้ๆ
2.) สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
อีกอำเภอหนึ่งใกล้กรุงเทพฯและปริมณฑลที่ไปกี่ที่ๆ ก็ไม่มีเบื่อ เพราะนอกจากจะเดินทางไม่ยากแล้ว ยังมีสถานที่สวยๆ ใกล้ชิดธรรมชาติอีกมากมายให้ได้ไปสัมผัส โดยมีไฮไลต์ที่น่าไป คือ
- น้ำตกเก้าโจน น้ำตกสวยประจำจังหวัดราชบุรี ที่มีด้วยกันถึง 9 ชั้น แถมยังมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเห็นแล้วสดชื่นสุดๆ ไปเลย
- แก่งส้มแมว แก่งน้ำกลางป่าสวนผึ้งที่มีโขดหินเล็กใหญ่ตั้งสลับวางซ้อนขวางแม่น้ำลำภาชีเอาไว้ ทำให้มีรูปร่างสวยงามแปลกตา อีกทั้งยังถูกโอบล้อมไปด้วยผืนป่าที่เขียวชอุ่มในพื้นที่ของศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ซึ่งทุกคนสามารถออกไปสำรวจสิ่งมีชีวิตต่างๆ อย่างนกยูง ที่มักจะออกมาหากินช่วงเช้าๆ ได้
- เขากระโจม ใครอยากไปสัมผัสทะเลหมอกแบบใกล้ๆ ที่นี่นับว่าไม่ควรพลาดเพราะไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือก็สามารถมาชมได้ วิวสวยงามไม่แพ้กันเลย
- อัลปาก้า ฮิลล์ ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่ทุกคนสามารถเข้าไปชมความน่ารักของอัลปาก้าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเข้าไปถ่ายภาพกับวัลลาบี หงษ์ กระต่าย ไก่โต้ง และหนูตะเภาได้ แต่ที่นี่จะมีการจำกัดผู้เข้าชมน้องๆ ไม่ให้เกิน 200 คนต่อวัน ดังนั้นใครที่สนใจแนะนำให้ไปจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ทางฟาร์มกันก่อน เพราะไปทั้งทีจะได้ไม่พลาดไปชมน้องกัน
3.) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีทั้งภูเขา ต้นไม้ให้ได้ออกไปสัมผัส แต่มีครบขนาดนี้ ต้องมีเราบ้างแล้วแหละ สำหรับไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ
- สะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จุดชมภาพพระอาทิตย์ตกที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ที่นอกจากจะได้ชมบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังเก็บภาพสุดชิคบนสะพานแขวน หรือจะเดินจูงมือพาคนรักหรือครอบครัวมาเดินเล่น ก็ได้บรรยากาศอบอุ่นไปอีกแบบ
- เขาพะเนินทุ่ง เป็นจุดแลนด์มาร์กที่เหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะมากัน พื้นที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าและป่าดิบที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีทะเลหมอกที่ก่อตัวกันอย่างหนาแน่นในยามเช้า มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอยู่ 2 จุด คือ จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง และยอดเขาพะเนินทุ่ง
- โป่งลึก บางกลอย จุดกางเต็นท์ ล่องแพสัมผัสธรรมชาติ และชมวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) ที่ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 50 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีของฝากที่ขึ้นชื่อคือ “กาแฟพ้อหว้า” กาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่คนในชุมชนปลูกกันเอง กลิ่นหอมรสชาติอร่อยจนต้องซื้อติดไม้ติดมือเอาไปฝากญาติพี่น้องของเรากัน
4.) เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
เมื่อพูดถึงเมืองที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ชื่อ “นครนายก” คงติดลิสต์อยู่ในใจใครหลายๆ คน และสถานที่ที่มีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเสียงเรียกร้องให้เราต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง คือ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” ที่เที่ยวดังที่ช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ในเราใช้กันในช่วงหน้าแล้ง นักท่องเที่ยวจึงมักนิยมมาชมวิว หรือเล่นน้ำ ล่องแก่งกัน
ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณรอบเขื่อนขุนด่านปราการชล ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งน้ำตก และภูเขา เรียกได้ว่ามาเที่ยวเดียว เที่ยวได้ทั้งวัน โดยไฮไลต์ของที่นี่ ได้แก่
- น้ำตกเขาช่องลม เขาที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล ทำให้เห็นเป็นแอ่งหุบเขาที่มีก้อนหินขนาดใหญ่เรียงรายกันมากมายตามแนวของแอ่งน้ำ เห็นเป็นวิวทัศน์ที่สวยงามจนถูกขนานนามว่า “กรีนแลนด์เมืองไทย”
- น้ำตกผางามงอน น้ำตกสีเขียวใสมรกตที่ไหลไต่ระดับลงมาอย่างสวยงาม โอบล้อมไปด้วยผืนป่าสีเขียวขจี ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่ชมธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ แต่เตือนว่าไม่ควรลงเล่นน้ำ เรื่องจากน้ำที่นี่ไหลแรงและผาหินก็สูงชันมากนั่นเอง
- น้ำตกคลองคราม น้ำตกที่อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกผางามงอนมากนัก ซึ่งห่างเพียง 500 เมตรเท่านั้น จุดเด่นของน้ำตกนี้ คือน้ำจะเป็นสีครามใส และเป็นจุดที่มีผีเสื้อให้ชมมากมาย
5.) อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
ดินแดนแห่งขุนเขา ป่าหนึ่งเดียวที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี คือ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” สถานที่อีกแห่งที่นักพจญภัยต่างพูดกันปากต่อปากว่าไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์แล้ว ยังมีจุดแลนด์มาร์กที่สำคัญคือยอดเขาเทวดา ภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดให้ได้เดินพิชิตกัน
แต่นอกจากยอดเขาเทวดาแล้ว ยังมีอีกหลายที่ที่สวยงามไม่แพ้กัน ได้แก่
- ป่าสนสองใบ ป่าไม้สนในอุทยานแห่งชาติพุเตย ที่ทอดสายตามองแล้วเหมือนทะเลภูเขา มีลมเย็นๆ พัดตลอดเวลาเหมาะแก่การเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ และจัดแคมป์ปิ้งค้างแรม
- น้ำตกตะเพินคี่ น้ำตกขนาดเล็กบนอุทยานแห่งชาติพุเตย ที่จะมีน้ำไหลตลอดปีผ่านโขดหินที่เป็นชั้นต่างๆ ลงมาอย่างสวยงามจนถึงลำธารล่างสุด แต่จะเป็นเพียงลำธารเล็กๆ เท่านั้น ดังนั้นที่นี่จึงไม่มีแอ่งน้ำให้เล่น มีแค่สายน้ำตกสวยๆ ให้เราได้ไปเก็บภาพ อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีให้เล่นน้ำ แต่ก็ยังมีกิจกรรมให้ไปเล่นกัน คือ “การโรยตัวกับน้ำตก” แต่ต้องติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่อุทยานก่อน เพราะต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพและความปลอดภัยต่างๆ
- หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่ปลอดอบายมุขและของมึนเมาทุกประเภท เพราะความบ้านเชื่อกันว่าใครทำผิด จะเป็นการผิดผี พื้นที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลมากนักกับน้ำตกตะเพินคี่ ใครที่อยากเข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน สามารถแวะไปได้ใกล้ๆ ที่สำคัญยังสามารถซื้อของพื้นถิ่น “ผ้าคลุมไหล่ทอมือ” อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนซึ่งหาที่ไหนไม่ได้แล้ว ติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากได้อีก
วันหยุดพิเศษทั้งที การได้ออกไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจคงดีไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะคนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่ต่างต้องเผชิญกับความตึงเครียดจากการทำงาน ยังไม่พอ ยังเจอกับปัญหารถติดและมลภาวะทางอากาศอีก ที่เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยคลายความเครียดและฟื้นฟูสุขภาพปอดของเราให้ดีขึ้นได้ แต่ขอให้ยังคงระมัดระวังตัวเองอย่างสูงสุด เพราะเมื่อกลับมาแล้ว จะได้ปลอดทั้งโควิด-19 และปลอดอุบัติเหตุด้วย