เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง 9 สิ่งควรมีก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์
9 สิ่งที่ควรมีก่อนเริ่มเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ จะสำเร็จได้ต้องเริ่มจากการเตรียมตัวที่ดี
การค้าขายออนไลน์ ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องลงทุนมากก็มีร้านเป็นของตัวเอง และปัจจุบันก็มีแพลตฟอร์มมากมาย ที่อำนวยความสะดวก นอกจากนี้ ทิศทางการซื้อสินค้าออนไลน์ในไทยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ สอดคล้องกับยอดใช้จ่ายซื้อของออนไลน์ของคนไทย ช่วง ม.ค.-มี.ค.64 ที่มีการใช้จ่ายสูงถึง 75,000 ล้านบาท/ดือน จึงไม่แปลกที่จะทำให้มีพ่อค้าแม่ค้ารายใหม่เข้าสู่วงการมากขึ้น
แต่เดี๋ยวก่อน สำหรับใครที่ยังไม่มีร้าน แล้วคิดจะทำมาค้าขายออนไลน์ ต้องฟังทางนี้ เช็ค 9 สิ่งที่ควรมีก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ อย่าลืมยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี
เตรียมตัว! เอสเอ็มอี-ร้านค้าออนไลน์ สรรพากร เข้มตรวจภาษี ดีเดย์ 1 ก.ค.
1.ชื่อร้าน
ต้องอ่านง่าย จำง่าย และติดหู การตั้งชื่อร้านที่แปลกใหม่ ถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดี แต่ถ้าแปลกเกินไปจนอ่านยาก สะกดยาก โอกาสที่ลูกค้าจะจดจำ และกดค้นหาชื่อร้านของเรา ก็จะยากตามไปด้วย เท่ากับว่า เราเสียโอกาสได้ลูกค้าใหม่ไปอีกคน
ที่สำคัญการตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสินค้า หรือบริการที่เราจะนำเสนอ จะช่วยทำให้ถูกนึกถึงง่ายขึ้น เช่น ขายเครื่องใช้ภายในบ้าน ใช้คำว่า Home หรือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ใช้คำว่า Clean เป็นต้น ลูกค้าก็จะสามารถจดจำและหาร้านของเราเจอได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. สินค้า เลือกจากสิ่งที่ชอบ เลือกจากสิ่งที่ใช่
หากกำลังมองหาว่าจะนำสินค้าอะไรมาขายในร้านค้าของเรา ลองเริ่มจากสิ่งรอบตัว สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ถนัด เพื่อที่เราจะได้นำความรู้ความเข้าใจที่มี เป็นข้อมูลเพื่อตอบคำถามลูกค้าได้ ซึ่งการเข้ามาสอบถามของลูกค้าก็มีหลายลักษณะ อย่างเช่น ถามถึงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ ถามถึงรูปแบบการใช้งาน ขณะที่ลูกค้าบางคนเข้ามาในรูปแบบขอคำปรึกษาด้านผลิตภัณ์ ซึ่งหากเป็นสิ่งที่เราลึกรู้จริง มีข้อมูล ก็จะสามารถบอกลูกค้า และเพิ่มโอกาสการขายได้ เช่น ชอบกางเต็นท์ อาจลองสำรวจตลาดและหาสินค้าเกี่ยวกับแคมป์ปิ้งมาขาย
แต่ไม่ว่าเราจะเลือกขายอะไร อย่าลืมคิดถึงราคาต้นทุนและกำไรที่จะได้รับ
3. เงินทุน
ต้นทุนการเปิดร้านค้าออนไลน์ ไม่ได้มีเพียงต้นทุนด้านสินค้า แต่มีทั้ง ค่าจัดส่ง ค่าแพ็กสินค้า ค่าโฆษณา และอื่นๆจิปาถะ จึงควรวางแผนให้ดี ให้รอบคอบ
4.จุดยืนของร้าน วางแผนร้านให้ชัดเจน
ลองดูว่าสินค้าของเราเหมาะที่จะขายส่งหรือขายปลีกมากกว่ากัน สินค้าบางอย่างขายปลีกได้กำไรมากกว่า แต่บางอย่างขายส่งปริมาณมากๆ ก็ได้เงินมากกว่าเช่นกัน
5.ช่องทางขายสินค้า
อีกสิ่งที่สำคัญ คือ ช่องทางการจำหน่าย ปัจจุบัน มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้า เข้าไปตั้งร้านค้าขายได้ง่ายขึ้น และสามารถทำได้พร้อม ๆ กัน ครั้งละหลายช่องทาง เช่น FACEBOOK, INSTAGRAM, LINE@, Shopee หรือ LAZADA เป็นต้น
แต่เรื่องที่ควรรู้ คือ แต่ละช่องทาง มีกลุ่มผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมต่างกัน เช่น ใน IG จะดึงดูดด้วยภาพมากกว่า, LINE@ จะเหมาะกับการพูดคุยสอบถาม, Facebook เน้นดึงดูดทั้งภาพและข้อความ เป็นต้น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกแพลตฟอร์ม
6.แผนการตลาด จุดขายดึงดูด
จะทำอะไร ต้องชัดเจน แผนการตลาดที่ดี ธุรกิจเราก็จะดีไปด้วย ต้องดูว่า เมื่อเราเป็นน้องใหม่ จะดึงดูดลูกค้าอย่างไร และจะทำให้อย่างไรให้ร้านของเราที่เพิ่งเปิดใหม่เอาชนะร้านอื่นๆ ได้
7. ช่องทางการชำระเงิน
ยิ่งเยอะยิ่งดี ทั้งพร้อมเพย์ บัตรเครดิต บัตรเดบิต ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า และอีกทริคที่แนะนำคือ ควรเปิดบัญชีสำหรับร้านกับธนาคารที่คนส่วนใหญ่ใช้บริการ และควรมีบัญชีที่รองรับการโอนเงินจากต่างประเทศ รองรับการค้าขายกับต่างชาติ
8.ความอดทนและมุ่งมั่น
อย่าเพิ่งท้อ การจะตั้งตัวได้ เป็นที่นิยมที่จดจำของลูกค้าได้ ต้องใช้เวลา และต้องหมั่นสังเกตว่า แผนการตลาดของเราให้ผลอย่างไรบ้าง หากไม่ดีต้องรีบปรับเปลี่ยน ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเรียกลูกค้า
9.เวลา ยิ่งเร็ว ยิ่งได้เปรียบ
ความอยากได้ของลูกค้า ณ เดี๋ยวนั้น คือโอกาสการขายที่ดี ฉะนั้น เมื่อลูกค้าให้ความสนใจและทักแชท ติดต่อเข้ามาถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ของเรา ที่สำคัญคือ ต้องรีบตอบ เพราะความอยากได้ของลูกค้ามีเวลาจำกัด หากเราตอบแชทช้า ลูกค้าจะรู้สึกเหมือนร้านไม่สนใจ โอกาสการขายก็จะหายไปด้วย
นอกจากทั้ง 9 ข้อนี้ พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ อย่าลืมศึกษากฎหมายการขายของออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ จะได้ไม่มีปัญหาโดนจับ โดนฟ้อง หรือโดนเก็บภาษีย้อนหลัง