เปิดคลิปโวยโดนดูดเงินออกจากบัญชี
ตอนนี้ประชาชนกำลังกังวลอย่างหนักกับการถูกมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต หรือบัญชีบัตรเดบิต อย่างผิดปกติ และพบมีเหยื่อเป็นจำนวนมาก แม้ว่าสมาคมธนาคารไทยและแบงค์ชาติ จะออกมายืนยันว่าธนาคารไม่ได้โดนแฮก แต่เกิดจากซื้อของผ่านออนไลน์ ไม่ใช่แอปดูดเงิน พร้อมดูแลคืนเงินให้ผู้เสียหาย แต่การที่อยู่ดี ๆ เงินก็หาย ทำให้มีคำถามว่า ธนาคารใช่ที่ปลอดภัยอีกหรือไม่
คลิปที่ผู้ใช้ TIKTOK โพสต์ลงแชร์ประสบการณ์ ก็ถูกมิจฉาชีพดูดเงินออกไปจากบัญชี 5,000 บาท โดยไม่รู้ตัว โดยเธอบอกว่า ธนาคารใช่ที่ปลอดภัยอีกแล้ว แม้เงินจะไม่มาก แต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เงิน 5,000 บาท มีความหมายมากสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ขณะที่อีกคลิปหนึ่ง เจ้าของคลิปก็ถูกมิจฉาชีพแฮกเงิน 4 รอบ ในช่วงเวลาประมาณ ตีหนึ่ง เป็นยอดเงินรวม 2,946 บาท ซึ่งเป็นการแฮกมาจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อมีข้อความเตือนจากระบบ เธอพยายามโอนเงินออกจากบัญชี และติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำการตรวจสอบโดยทันที
ระงับบัตรแล้ว แบงก์ให้คืนถูกดูดเงิน ให้รีบติดต่อ "แบงก์ชาติ - ส.ธนาคารไทย" แถลงชี้แจงสาเหตุ
แบงก์ชาติ เรียกถกด่วน! ธ.พาณิชย์ หาสาเหตุเงินลูกค้าหาย บัญชีถูกแฮกเงินนับหมื่นราย
นักศึกษาเตือนภัย ถูกแอบถ่าย-ข่มขู่มีเพศสัมพันธ์
อุตุฯ เตือน 39 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก ใต้ระวังคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในโลกออนไลน์ มีการาตั้งกลุ่ม แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว มีผู้เข้าร่วมกลุ่ม เกือบ 60,000 คน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่มาแชร์ข้อมูลจากการสูญเงินโดยไม่รู้ตัว จากการโดนดูดเงิน หรือ ถูกเอาเลขบัตรเครดิต ไปซื้อของ โดยผู้เสียหายบางคนเสียหายไปเกือบแสนบาท โดยมิจฉาชีพใช้บัตรเครดิตไปซื้อ ad facebook ก่อนหน้านั้นก็ไม่มี OTP หรือ ข้อความใดใดแจ้งเตือน เจ็บปวดมาก
ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง โดนดูดเงินไป 231 ครั้ง ครั้ง ละ 29 บาท ในเวลา 18 ชั่วโมง โดยไม่มี SMS แจ้งเตือน ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่ามิจฉาชีพ จะดูดเงินทีละน้อย โดยดูดเงินต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ ระบบจึงไม่แจ้งเตือน แต่ดูดเงิน ถี่ ๆ หลายรายการ เมื่อรวมแล้วความเสียหายก็มีจำนวนมาก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า
ได้ประสานกับตำรวจในการดำเนินการ หลังมีรายงานว่าประชาชนเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้งและให้ผู้เสียหายระบุตัวผู้กระทำผิด โดยยอมรับว่าอาจตามตัวผู้กระทำผิดได้ยาก แต่ยืนยันจะเร่งบล็อคกระบวนการผู้กระทำผิดนี้ให้ได้โดยเร็ว
นายชัยวุฒิ ระบุว่า จะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องระบบการจ่ายเงินออนไลน์ โดยปกติการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตไม่ค่อยพบปัญหานี้ เพราะมีระบบตรวจสอบ 2 ชั้น คือเมื่อจะตัดเงินต้องใส่รหัสผ่าน + OTP แต่บัตรเดบิตอาจจะมีปัญหามากกว่าที่ตัดเงินจากบัญชีทันที