ไทยขายข้าวให้อิรักเพิ่มเดือนละ 1 แสนตัน ดันยอดส่งออกรวม 7.5 ล้านตันตามเป้า
โฆษกรัฐบาลเผย ม.ค.-ส.ค. 65 ไทยส่งออกข้าวแล้ว 4.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จากปีก่อน ดันแนวโน้มส่งออกข้าวไทยปีนี้ทะลุเป้า 7.5 ล้านตัน โดยตลาดผู้นำเข้าข้าวอันดับที่ 1 ของไทย คือ อิรัก นำเข้าข้าวเพิ่มเดือนละกว่า 1 แสนต้น
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยและสถานการณ์ข้าวไทย ณ เดือน ส.ค. 65 โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ได้รายงานปริมาณการส่งออกข้าวไทยเทียบกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญ (อ้างอิงข้อมูลจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าว) ว่า
สัญญาณบวก อสังหาฯ เทรนด์ ไมโคร คอนโด ซอยห้องเล็กราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท
"น้ำมันขึ้น ของก็แพง" เจาะเงินเฟ้อไทย อ่อนไหวตามราคาพลังงาน
ในปี 2565 (ม.ค.- ส.ค.) อินเดียส่งออกข้าวได้มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ประมาณ 11.23 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ ไทย 4.75 ล้านตัน เวียดนาม 4.25 ล้านตัน ปากีสถาน 2.47 ล้านตัน และสหรัฐฯ 1.49 ล้านตันตามลำดับ
เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ไทยส่งออกมากขึ้น ล้านกว่าตัน
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 64 (ม.ค.-ส.ค.) ในปี 65 ไทย มีปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น จาก 3.10 ล้านตัน เป็น 4.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.23 โดยมีปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อยู่ในระดับอ่อนค่า เมื่อเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ มีราคาใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญ เช่น เวียดนาม เมียนมา
รวมถึงการส่งออกข้าวของไทยไปยังกลุ่มประเทศผู้นำเข้าในภูมิภาคตะวันออกกลางโดยเฉพาะอิรัก ยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ การส่งออกข้าวไทยในช่วงที่ผ่านมานั้น เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้มีการนำเข้าข้าวไทยไปใช้ทดแทนข้าวสาลีและข้าวโพดในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นด้วย
"ข้าวขาว" ยังนิยมในตลาดโลก
ไทยส่งออกข้าว 7 เดือนแรก ขยายตัว 53.6% "แซงเวียดนาม" ขึ้นที่ 2
ส่งออกข้าวของไทยถ้าจำแนกตามชนิดข้าว ในช่วง ม.ค.-ก.ค. 65 ไทยมีปริมาณการส่งออกข้าวรวม 4.09 ล้านตัน
ข้าวขาวเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 1.93 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.19 ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด
รองลงมา ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง ข้าวหอมไทย ข้าวหอมไทย ข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ตามลำดับ
อิรัก ตลาดส่งออกอันดับ 1 ข้าวไทย
ประเทศที่นำเข้าข้าวที่สำคัญ ‘ข้าวขาว’ ได้แก่ อิรัก จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ โมซัมบิก อังโกลา มาเลเซีย แคเมอรูน สหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ส่วนประเภท ‘ข้าวหอมมะลิไทย’ ได้แก่ สหรัฐ เซเนกัล ฮ่องกง จีน แคนาดา สิงคโปร์ โกตดิวัวร์ เยเมน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส
ขณะที่ตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทยแบ่งตามภูมิภาค ปี 2565 (ม.ค.-ก.ค.) อันดับหนึ่ง คือ ภูมิภาคแอฟริกา คิดเป็นสัดส่วน 29.83% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมาได้แก่ ตะวันออกกลาง 26.89% เอเชีย 23.23% อเมริกา 12.96% ยุโรป 4.40% และโอเชียเนีย 2.69% ตามลำดับ
การฟื้นตัวของตลาดอิรักต่อการส่งออกข้าวไทย ทำให้ไทยส่งออกข้าวไปยังอิรักได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉลี่ยมากกว่า 100,000 ตันต่อเดือน และทำให้อิรักกลายมาเป็นตลาดผู้นำเข้าข้าวอันดับที่ 1 ของไทย และมีการนำเข้าข้าวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ปรับเป้าส่งออกปีนี้เพิ่มอีก 5 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้หารือและเห็นชอบร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยปี 2565 จากเดิมที่กำหนดไว้ปริมาณ 7 ล้านตัน เป็น 7.5 ล้านตัน
ซึ่งหากการส่งออกข้าวไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะทำให้ไทยสามารถส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.05 จากปีก่อน โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณ 4.09 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.76 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว ทำให้การส่งออกข้าวไทยในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยนอกจากปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปตลาดอิรักแล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่น เช่น ปริมาณน้ำฝนและน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูกทำให้มีผลผลิตมาก ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่อ่อนค่า