ย้ำอีกรอบ! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ยังได้รับสิทธิวงเงินซื้อสินค้า-ก๊าซหุงต้ม-ค่าไฟ-ค่าน้ำ
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ยังได้รับสิทธิ วงเงินซื้อสินค้า โครงการเพิ่มกำลังซื้อ วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม มาตรการช่วยค่าไฟ-ค่าน้ำ
วันนี้ (1 ต.ค.65) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี2565 ล่าสุดยอดผู้ลงทะเบียน ณ วันที่ 30 กันยายน มีจำนวน 19,381,909 รายนั้น ขอเน้นย้ำกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ยังคงสามารถใช้สิทธิ์ได้อยู่แม้บางมาตรการจะสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 แต่รัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป
ช่วยค่าน้ำ-ค่าไฟ ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 7 เดือน ไปจนถึงเม.ย.66
ปูตินพูดอะไรบ้าง? ในการประกาศ “รวมแผ่นดิน” ผนวก 4 ภูมิภาคยูเครน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ยังได้รับสิทธิในเดือนตุลาคม ได้แก่
- วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาทต่อเดือน
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อ คนละ 200 บาทต่อเดือน
- วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ถือบัตรคนจนทั่วไป 100 บาท ต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน
- วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับร้านค้า หาบเร่ แผงลอย100 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน
มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ส่วนกรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เว้นแต่กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง เว้นแต่กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด ทั้งนี้ รัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีได้ขยายระยะเวลาไปถึง 7 เดือน คือตั้งแต่ตุลาคม 2565 - เมษายน 2566