ขยายเวลาลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" สำหรับผู้ที่ติดตามคู่สมรสไม่ได้
เปิดเอกสารสำหรับผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ และการขยายระยะเวลาวันสุดท้ายของการรับลงทะเบียน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในแนวทางการดำเนินการเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เสนอ โดยมีรายละเอียด คือ
เช็กผลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ประกาศทุกวันศุกร์ ในแต่ละสัปดาห์
จิสด้า เปรียบเทียบภาพน้ำท่วมอุบลฯ พบท่วมขังตลอดแนวสองฝั่งริมแม่น้ำมูล
ครม.ใจป้ำ ให้รถไฟ กู้เงินบรรเทาการขาดสภาพคล่อง ปีงบฯ 66 กว่า 15,000 ล้าน
1. กลุ่มของผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรส
1.1 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป นับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565) ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้
1.2 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ผู้ลงทะเบียนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้
2. แนวปฏิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้
2.1 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียน พร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คน รวมถึงต้องมีการลงนามรับรองจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เป็นผู้รับรองว่า ผู้ลงทะเบียนเป็นบุคคลที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้ และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีมีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่
หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไปผู้ลงทะเบียนจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ โดยต้องไปยืนยันตัวตน ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน)และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)
2.2 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป ยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียน พร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คน และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นณ หน่วยงานรับลงทะเบียน
หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงและยืนยันตัวตน ณ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทยฯ (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด) จึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้
ประชาชนสามารถดาวน์โหลดหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ ได้ที่ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อขอรับจากหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยทั่วประทศ
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทะเบียนที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนจาก “วันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565” เป็น “วันที่ 5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565”