นายกฯ ยืนยัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ เงินเข้าบัตร 1 เมษายนนี้
ประชุม ครม.รับทราบความคืบหน้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยัน อนุมัติงบประมาณแล้ว 1 เมษายนนี้ เงินเข้าบัตร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมมีวาระ ครม.เข้ามาจำนวนมากมีวาระเพื่อทราบ 14 เรื่อง และวาระเพื่อการพิจารณา 34 เรื่อง วาระจรอีก 8 เรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องการดูแลประชาชน ที่สำคัญคือเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
วันนี้อนุมัติงบประมาณแล้ว ที่เหลือคือการพิสูจน์สิทธิต่างๆที่จะใช้เวลาอีกสักพัก ตั้งเป้าให้มีผลในวันที่ 1 เมษายนนี้
ต่อมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.คลัง แถลงหลังการประชุม ครม. ถึง ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" โดยมี จำนวนผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ ผ่านกรมการปกครอง 19.64 ล้านราย จากนั้นผ่านการคัดกรองอีกครั้ง จนสุดท้ายสรุปยอดผู้ที่ ผ่านเกณฑ์มีจำนวน 14.59 ล้านราย และไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 5.05 ล้านราย โดยจะประกาศผล 1 มี.ค.2566 เป็นต้นไป โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ทันที และผูกบัญชีเงินฝากพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน กับธนาคารใดก็ได้
เกณฑ์การพิจารณาครั้งนี้ เน้นไปที่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเป้าหมายหลัก มีเกณฑ์การตรวจสอบเพิ่มขึ้น โดยแตกต่างจากรอบเดิม คือเกณฑ์บุคคล แต่ครอบใหม่นี้ ใช้เกณฑ์บุคคลรวมกับครอบครัว เพื่อดูว่าแต่ละครอบครัว มีรายได้เพียงพอในการดูแลครอบครัวหรือไม่ โดยเฉลี่ยหลักการไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งพ่อ แม่ ลูกอายุไม่เกิน 18 ปี รวมถึงเกณฑ์การพิจารณาเรื่องรายได้ ทรัพย์สินทางการเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ การถือครองบัตรเครดิต หนี้สิน ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม 60% เป็นผู้ผ่านเกณฑ์เดิม ส่วนอีก 40% เป็นรายใหม่ที่ผ่านการคัดกรอง
จากนั้นการเริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่ 1 เม.ย.2566 ใน 3 ธนาคาร คือ กรุงไทย ออมสิน ธกส.โดยเปิดให้ยืนยันตัวตน 5 รอบ
- 1 มี.ค.-26 มี.ค. 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ 1 เม.ย.2566
- 27 มี.ค. 2566 - 26 เม.ย.2566 เริ่มใช้สิทธิได้ 1 พ.ค.2566
- 27 เม.ย.2566-26 พ.ค.2566 เริ่มใช้สิทธิได้ 1 มิ.ย.2566
- 27 พ.ค.2566 - 27 มิ.ย.2566 เริ่มใช้สิทธิได้ 1 ก.ค. 2566
- หลัง 27 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป เริ่มใช้สิทธิ 1 ส.ค.2566
ซึ่งแต่ละครั้งการใช้สิทธิ์จะแตกต่างกัน โดยผู้ที่ยืนยันตัวตน ตั้งแต่รอบแรก เช่น ค่าสินค้าต่าง ๆ ของอุปโภค-บริโภค ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ส่วนผู้พิการจะได้รับ 200 บาทแบบ on top ซึ่งเพิ่มเข้ามา
ขณะที่การยืนยันตัวตนตั้งแต่รอบ 2-4 ความแตกต่างจะได้รับสิทธิ์ย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน และจะเฉพาะค่าสินค้าต่าง ๆ ของอุปโภค-บริโภค จากร้านธงฟ้า และ ในรอบที่ 5 จะไม่ได้สิทธิย้อนหลังเช่นกัน
ส่วนผู้ "ไม่ผ่านคุณสมบัติ" 5.05 ล้านราย จะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
ซึ่งการยื่นอุทธรณ์จะเริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.2566 - 1 พ.ค.2566 และประกาศผลรอบอุทธรณ์ 20 มิ.ย.2566 และใช้สิทธิตั้งแต่ 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป
ด้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ครม.อนุมัติโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ว่า วงเงินการใช้โครงการดังกล่าวเพิ่มไม่มาก โดยรายละเอียดมีการเพิ่มวงเงินบุคคลที่มีรายได้ไม่ถึง 1 แสนบาทต่อปีเป็น 300 บาทจากเดิมที่ให้ 200-300 บาท พร้อมยืนยันว่ากระทรวงการคลังมีวงเงินพอเพียงที่ใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เมื่อถามว่ากรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ชูนโยบายบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน จะทำได้หรือไม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการนำมาคำนวน ฉะนั้นต้องไปคำนวนดูว่า 14.59 ล้านราย รวมถึงผู้ที่อุทธรณ์ขอรับสิทธิ์จะมีกว่า 16-17 ล้านราย ปีหนึ่งต้องใช้เงินแสนกว่าล้านบาทจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่ากรณีนโยบายพรรคพลังประชารัฐบัตรประชารัฐ 700 บาทจะทำได้หรือไม่ นายสันติ ระบุว่า ได้มีการคำนวนมาแล้วว่าเป็นไปได้ แต่นั่นหมายความว่าพรรคพลังประชารัฐ ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านระบุว่าจะทำทันที ซึ่งก็ยังคงเป็นนโยบาย
เมื่อถามว่าขณะนี้หลายพรรคออกนโยบายเกทับกันนั้น นายสันติ ระบุว่า ไม่เป็นไรเพราะอยู่ที่ประชาชนว่าจะให้ความเชื่อถือจริงใจ ตั้งใจกับพรรคการเมืองไหน ซึ่งใครอยากจะคิดอะไรก็คิด หากจะคิดมากก็ต้องหาเงินมาดูแลประชาชนให้เป็น รวมถึงพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการเดินหน้าประเทศ และจะได้มีเงินใช้จ่ายเยอะๆ ฉะนั้นก็อยู่ที่ความสามารถและเทคนิคของแต่ละพรรค ส่วนนโยบายเรื่องพลังงานของพรรคถึงเวลาก็จะดำเนินการได้
ทั้งนี้เลขาธิการพรรค พปชร. ยืนยันว่า ทุกนโยบายที่ พล.อ.ประวิตร ประกาศออกไป ตนมั่นใจว่ารัฐบาลของท่านจะมีความสามารถในการหาเงินมาสนับสนุนโครงการต่างๆให้เกิดขึ้นได้