เต็นท์รถยอมรับหนี้เสียพุ่งจริง กู้ยากขึ้น คาดปีนี้รถอาจถูกยึด 3 แสนคัน
จากกรณีเครดิตบูโร เตือนสถานการณ์หนี้เสียสินเชื่อรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบัญชีสินเชื่อทั้งหมดแยกตามอายุกลุ่ม GEN Y และกลุ่ม GEN X พบว่า 50% เป็นหนี้เสียแล้ว ทำให้อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจมีความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะถูกยึดรถรวม 1 ล้านคัน ล่าสุดทีมข่าวพีพีทีวี ได้สอบถามความเห็นจากในเรื่องนี้จากผู้บริหารเต็นท์รถ ยอมรับว่า ปัญหาหนี้เสียสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้นจริง และการได้รับอนุมัติเงินกู้ก็ยากขึ้น
นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ ผู้บริหาร เต็นท์รถ "โย รัชดา” และอดีตนายกสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้นจริง เพราะมาตรการพักชำระหนี้ต่าง ๆ ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ลูกหนี้ต้องกลับมาผ่อนรถตามปกติ ลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นจากสถานการณ์โควิด เกิดปัญหาผ่อนรถไม่ไหว ทำให้ต้องมีการยึดรถยนต์ แต่เชื่อว่า
โดยจำนวนรถที่ถูกยึดในปี 2566 นี้ คาดว่าไม่ถึง 1 ล้านคัน เพราะปกติแล้วปีที่ผ่าน ๆ มา มีรถถูกยึดและเข้าลานประมูลจำนวนปีละ 200,000-300,000 คันเท่านั้น ปีนี้อย่างเลวร้ายที่สุดก็คงไม่ถึง 400,000 คัน
แบงก์-ลิสซิ่งเข้มงวด ยอดปฏิเสธสินเชื่อรถกระฉูด
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามีหนี้เสีย และบัญชีสินเชื่อที่มีปัญหามีมากขึ้น สะท้อนได้จากการที่ธนาคาร และ ลิสซิ่งเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยภาพรวมผู้ที่กู้ซื้อรถ ประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ถูกปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อ
ขณะที่ส่วนใหญ่ผู้ที่ขอสินเชื่อได้ จะเป็นพนักงานบริษัทมนุษย์เงินเดือน มีสลิปเงินเดือนที่แน่นอน แต่หากเป็นอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ จะกู้ได้ยาก
นายภิญโญ กล่าวต่อว่า อยากให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ แก้หนี้ให้ประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะกังวลว่าถ้าในอนาคตหนี้เสียเพิ่มขึ้น ธนาคารปล่อยกู้ยากขึ้น ราคารถตกลง จะกระทบต่อธุรกิจ เต็นท์รถ และ รถยนต์มือสอง เพราะปัจจุบันสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองเติบโตดีขึ้น เนื่องจากรถยนต์ป้ายแดงผลิตได้น้อยลง จากปัญหาขาดแคลน เซมิคอนดักเตอร์